วันเสาร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2554

พรศักดิ์ อริยพงศ์ไพโรจน์ "ออโต โมทีฟ"บุกหนัก

คอลัมน์ สัมภาษณ์


ได้ชื่อว่าเป็นบริษัท ที่จัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ โดยเฉพาะระบบช่วงล่าง แบบครบวงจรที่สุดค่ายหนึ่งของบ้านเราคือ บริษัท ออโต โมทีฟ เอเชียติ๊ก จำกัด หรือ"เอเอซี" และ บริษัท ทีอาดับบิล เอเชียติ๊ก จำกัด

มี "พรศักดิ์ อริยพงศ์ไพโรจน์" นั่งกุมบังเหียน ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ผู้มีวิสัยทัศน์ไม่ธรรมดา จนทำให้ประสบความสำเร็จ ทั้งกับยอดขายที่เพิ่มขึ้น และดีลเลอร์ก็ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงแบรนด์สินค้าที่ตบเท้าเข้ามาอีกเพียบ

- ปีนี้มีสินค้าใหม่อะไรบ้าง

เป็นปีที่เรามีผลิตภัณฑ์ใหม่จำนวนมาก ที่เจรจาอยู่มีหลายตัว แต่ที่เปิดตัวไปแล้วเป็นกลุ่มหัวเชื้อน้ำมันเครื่องSTP ที่หากเป็นผู้ใช้รถยนต์รุ่นเก่า จะรู้จักแบรนด์นี้เป็นอย่างดี เพราะมีชื่อเสียงมาก บริษัทได้สิทธิ์เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เพราะมั่นใจในคุณภาพ โดยมีสองกลุ่ม คือกลุ่มหัวเชื้อน้ำมันเครื่อง กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาเครื่องยนต์ เบนซิน และดีเซล ส่วนกลุ่มสุดท้าย เป็นกลุ่มอื่นๆ ที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลายมาก

พร้อมกันนี้กำลังอยู่ระหว่างเตรียมทำตลาดน้ำมันเครื่องรถยนต์เดลฟาย ซึ่งได้ทดลองตลาดมาระยะหนึ่ง และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ด้วยเพราะแบรนด์เดลฟาย เป็นแบรนด์ผู้ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่ให้กับรถยนต์ระดับหรู ส่วนที่เหลือมีอีกสองแบรนด์ คือที่ปัดน้ำฝนแวร์ลูโอ และยางรองแท่นเครื่องยนต์ คอร์เตโก้ จากประเทศเยอรมนี

- กลุ่มสินค้าหลากหลายขึ้น

ใช่ เพราะวันนี้เราไม่ได้เป็นแค่เพียงผู้แทนจำหน่ายอะไหล่ งานซ่อมบำรุงเพียงอย่างเดียว แต่ได้แตกไลน์ออกไปเป็นกลุ่มบำรุงรักษาด้วย โดยในส่วนของกลุ่มบำรุงรักษานี้ จะมุ่งเน้นทำตลาดทั้งดีลเลอร์ อู่ซ่อมรถยนต์ และฟาสต์ฟิต วันนี้สัดส่วนยอดขายอาจจะยังค่อนข้างน้อย แต่ในอนาคตจะเป็นกลุ่มหลักของบริษัทกลุ่มหนึ่ง ตั้งเป้าภายในสามปีจากนี้ไป จะต้องมีสัดส่วนให้ได้อย่างน้อย 30% ขึ้นไป

- แผนลงทุนใหม่

จริงๆ เป็นแผนที่เราชะลอมาตั้งแต่ปีที่แล้ว เพราะยังหาสถานที่ถูกใจไม่ได้ คือการจัดตั้งศูนย์ ทีอาร์ดับบลิว ออโต้ เซอร์วิส มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท เป็นศูนย์ฝึก อบรมดีลเลอร์ พนักงานของดีลเลอร์ เพื่อให้เข้าใจถึงการให้บริการสินค้าแต่ละอย่างได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ขณะเดียวกันยังใช้เป็นศูนย์บริการลูกค้าภายนอกเต็มรูปแบบด้วย คาดว่าเดือนส.ค.นี้ จะได้ข้อสรุป พื้นที่อยู่ระหว่างย่านลาดพร้าวหรือรามอินทรา

- เป้ารายได้ในปีนี้

เมื่อปีที่แล้วรายได้ของบริษัทเติบโตขึ้น 20% มาจบที่ 1,100 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้เดิม ส่วนในปีนี้ตั้งเป้าหมายไว้ที่เติบโตขึ้น 10% โดยปีนี้บริษัทให้ความสำคัญกับการขยายเครือข่ายดีลเลอร์ ให้ครอบคลุมลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด ซึ่งปัจจุบันมีร้านค้าดีลเลอร์อยู่ประมาณ 1,500 ร้านค้า ตั้งเป้าภายในสิ้นปีนี้เพิ่มเป็น 1,700 ร้านค้า พร้อมทั้งเพิ่มในส่วนของ ดีลเลอร์ ที่ไว้วางใจจำหน่ายสินค้าของบริษัท ครบทุกรายการ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 60-70 ราย ให้เป็น 100 ราย ภายในสิ้นปีนี้เช่นเดียวกัน

Credit : http://www.khaosod.co.th