วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2554

เที่ยว"น่าน"เมืองอัสจรรย์กลางหุบเขา

การเดินทางไปเที่ยวภาคเหนือในแต่ละครั้ง นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่คงคิดถึงแต่สถานที่ยอดฮิตอย่าง เชียงใหม่ หรือปาย แต่วันนี้ เดลินิวส์ออนไลน์ จาทุกคนไปรู้จักเมืองแห่งความงามที่หลับใหลอยู่กลางหุบเขา จังหวัดน่าน ด้วยภูมิประเทศที่สลับซับซ้อนไปด้วยขุนเขา บรรยากาศของเมืองน่านรับรองว่าโรแมนติกไม่แพ้ปายแน่นอน อีกทั้งยังเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวไม่มากนัก จึงทำให้ใครที่ได้มาที่นี่จะต้องติดใจจนไม่อยากเดินทางกลับ

สมัยก่อนจะมาเที่ยวน่านแต่ละครั้งต้องอาศัยการเดินทางโดยรถซึ่งกินเวลานานมาก แต่ทุกวันนี้มีสายการบินที่บอนตรงจากกรุงเทพฯมาถึงน่านแล้ว ทำให้นักท่องเที่ยวเริ่มทยอยมาชมความงามที่ยังสมบูรณ์ของที่นี่มากขึ้น แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญส่วนใหญ่ของน่านจะเป็นวัดซึ่งมีความเก่าแก่ และมีศิลปะการตกแต่งที่ต่างจากวัดเมืองอื่น 

เราเริ่มต้นทริปด้วยการท่องเที่ยวตามวัดต่างๆในอำเภอปัว โดยวัดแรกที่เยือนคือ วัดปรางค์ ซึ่งไฮไลท์ของวัดแห่งนี้อยู่ที่ ต้นดิกเดียม ต้นไม้มหัศจรรย์ ที่ไกด์ท้องถิ่นบอกว่าเพียงสัมผัสหรือลูบเบาๆที่กิ่งก็จะมีการสั่นไหว ผู้ร่วมเดินทางได้ยินอย่างนี้เลยพากันลองลูบคล้ำต้นไม้ต้นนี้ ซึ่งทุกคนต่างตื่นเต้นเมื่อเห็นต้นดิกเดียมสั่นไหวทั้งๆที่ไม่มีลมพัดผ่านสักนิดเดียว ความอัศจรรย์นี้ทำให้ต้นดิกเดียมได้รับแต่งตั้งให้เป็น 1 ใน UNSEEN THAILAND
ชมความอัศจรรย์ของต้นดิกเดียมอยู่สักพักเราก็เดินทางมาต่อกันที่ วัดร้องแง เป็นวัดไทลื้อที่มีความสวยงาม อยู่ในตัวเมืองปัว เส้นทางผ่านไปอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ซึ่งวัดแห่งนี้การันตีความงามได้ด้วย รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่7 ประเภทแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมดีเด่น จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

ความงามของวัดร้องแงอยู่ที่จิตกรรมฝาผนังที่คงความงามโบราณไว้เป็นอย่างดี โดย บ้านร้องแง แห่งนี้มีวัฒนธรรมประเพณีพื้นบ้านไทยลื้อเป็นแบบฉบับเป็นของตนเอง  มีวัฒนธรรมในการแต่งกายอย่างไทยลื้อ ทอผ้าใช้เอง ลักษณะบ้านเรือนแบบไทยลื้อ มีภาษาพูดเป็นของตนเองที่เป็นลักษณะเด่น และที่สำคัญมีโบราณสถาน และแหล่งโบราณที่น่าสนใจหลายอย่าง โดยวัดร้องแงก็เป็นหนึ่งในโบราณสถานของบ้านไทลื้อแห่งนี้

เสร็จจากชมความงามของวัดร้องแง และชมวิถีไทลื้อของบ้านร้องแงแล้ว เรามุ่งหน้ามาชมวัดที่ไกด์แนะนำว่าขึ้นชื่อเรื่องความงามของจิตกรรมฝาผนัง วัดหนองบัว ตั้งอยู่ในหมู่บ้านหนองบัว ตำบลป่าคา ไปตามเส้นทางถนนสาย อ.เมืองน่าน-ท่าวังผา สร้างขึ้นตามแบบของสถาปัตยกรรมของไทลื้อเช่นกัน จากคำสันนิษฐานวัดไทลื้อแห่งนี้สร้างราวพ.ศ. 2405 ซึ่งตรงกับสมัยรัชกาลที่ 4

ความงดงามที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ทำให้ชื่อเสียงของวัดนี้โด่งดังก็คือ จิตกรรมฝาผนัง ซึ่งพอได้มาเห็นกับตาแล้วก็ต้องบอกว่าสวยงามสมคำร่ำลือจริงๆ โดยภาพจิตรกรรมที่วัดหนองบัวแห่งนี้เล่าเรื่องหนึ่งในปัญญาสชาดก ซึ่งเป็นพระชาติหนึ่งของพระพุทธเจ้า และยังมีภาพของเรือกลไฟ และดาบปลายปืน ซึ่งเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่ 4 ถึงรัชกาลที่ 5

ถ้าลองปะติดปะต่อเรื่องราวดีๆจะพอสันนิษฐานได้ว่า ผู้วาดสะท้อนให้เห็นสภาพความเป็นอยู่ของผู้คนในสมัยนั้นได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการแต่งกายของผู้หญิงที่นุ่งผ้าซิ่นลายน้ำไหลหรือผ้าซิ่นตีนจกที่สวยงาม จากความสมบูรณ์ของภาพในวัดหนองบัว ทำให้มีการสันนิษฐานว่าภาพวาดของที่นี่ เป็นการวาดก่อนที่วัดภูมินทร์ วัดชื่อดังของจังหวัดน่านอีกด้วย

ความงามของวัดหนองบัวไมได้เป็นเพียงที่สุดของวัดในเมืองน่าน เพราะยังมีวัดอีกหลายแห่งที่น่าสนใจอย่างเช่น วัดพระธาตุเขาน้อย ที่มีองค์พระธาตุตั้งอยู่บนยอดดอยเขาน้อย ซึ่งอยู่ด้านตะวันตกของตัวเมืองน่าน องค์พระธาตุเป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูนทั้งองค์ เป็นศิลปะพม่าผสมล้านนา ภายในบรรจุพระเกศาธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และยังมีพระทันใจ ไว้สำหรับที่ต้องการขึ้นมานมัสการและขอพรให้สมหวังในสิ่งที่อยากได้อีกด้วย

ผู้ร่วมเดินทางทุดคนต่างลงความเห้นเป็นเสียงเดียวกันว่า สิ่งที่สะดุดตาและเป็นเสน่ห์ของวัดแห่งนี้อยู่ที่เป็นจุดที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบของตัวเมืองน่านได้อย่างชัดเจน ปัจจุบันบริเวณลานชมทิวทัศน์ประดิษฐาน พระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประทานพร บนฐานดอกบัวสูง 9 เมตร หันหน้าออกสู่ตัวเมืองน่าน โดยมีความเชื่อว่าเพื่อคอยสอดส่องดูแลชาวบ้าน สร้างขึ้นเนื่องในมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542

การเดินทางท่องเที่ยวเมืองน่านยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะไฮไลท์ของเมืองแสนเงียบสงบแห่งนี้อยู่ที่ถนนสายวัฒนธรรมรอบตัวเมือง ที่เป็นศูนย์รวมวัดโบราณแสนสวยงามมากมาย ไว้ครั้งหน้าเราจะพาทุกคนไปชมแน่นอน

ทีมเดลินิวส์ออนไลน์













































ที่มา นสพ เดลินิวส์ http://www.dailynews.co.th