เขียง มะขาม
อาหารบางอย่างกินมาตั้งแต่เด็กจนโต นึกว่าทำง่ายๆ จะทำกินเมื่อไหร่ก็ได้
พอลองลงมือทำเองถึงได้ซาบซึ้งว่า
ไอ้หนูเอ๋ย เอ็งเข้าใจอะไรผิดมาตลอด
อย่างผัดถั่วงอกเลือดหมู หรือผัดเลือด หมูถั่วงอก แล้วแต่จะชอบเรียกอย่างไหนนี่ก็เหมือนกัน
สมัยก่อน เช้าๆ วันเสาร์หรืออาทิตย์ ช่วงที่พ่อกับแม่ยังเช่าบ้านอยู่ที่ซอยลาซาล-แบริ่ง
ถ้าเกิดมีใครเสนอความคิดขึ้นมาว่าวันนี้อยากกินผัดถั่วงอกเลือดหมูละก็
ต้องมีคนอาสาปั่นจักรยานไปซื้อของที่ตลาดสำโรงในบัดนั้น
ของกลับมาถึงบ้านไม่กี่อึดใจ แม่ก็ผัดขึ้นตั้งบนโต๊ะ กลิ่นหอมฉุย กินกับข้าวร้อนๆ เท่าไหร่ก็ไม่เบื่ต้องมีคนอาสาปั่นจักรยานไปซื้อของที่ตลาดสำโรงในบัดนั้น
ของกลับมาถึงบ้านไม่กี่อึดใจ แม่ก็ผัดขึ้นตั้งบนโต๊ะ กลิ่นหอมฉุย กินกับข้าวร้อนๆ เท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ
พอโตขึ้นมาอีกหน่อย ก็ตักผัดถั่วงอกเลือดหมูราดข้าว แล้วเอาน้ำพริกกะปิราดซ้ำลงไปอีกที ให้มีรสอื่นเพิ่มขึ้นอีก
อร่อยไปอีกแบบ
แต่งงานแล้ว มาพึ่งบารมี (และฝีมือ) คุณแม่ยาย ก็ได้กินผัดถั่วงอกเลือดหมูรสเดียวกันกับที่แม่เคยทำเปี๊ยบ
ก็ยังไม่นึกอยากจะลงมือเอง จนกระทั่งคุณยายผัดให้กินอีกเมื่อไม่กี่วันก่อน
กินเช้าเสร็จ หิ้วใส่ปิ่นโตมากินเที่ยงที่ที่ทำงานอีก
ตามประสาพวกย้ำคิดย้ำทำ(ฮา)
แล้วก็นึกได้ว่าที่ผ่านมาคิดเอาเองทั้งนั้นว่าผัดถั่วงอกทำยังไง ไม่เคยถามผู้ลงมือปฏิบัติเลย
ว่าแล้วก็ไปปะเหลาะถามคุณแม่ยายว่าขั้นตอนก่อนจะมาเป็นจานๆ วางบนโต๊ะนี่ต้องทำยังไงบ้าง
ฟังแล้วก็เอ๋อไปเลย
สูตรคุณแม่ยายมีอย่างนี้ครับ
เริ่มต้นจากเลือดหมู จะให้หมดคาว ซื้อมาแล้วหั่นเป็น ชิ้นใหญ่ๆ เอาไปลวกน้ำเดือดสัก 3 รอบ
ตั้งกระทะ ไฟกลาง ใส่น้ำมันลงไปพองาม พอน้ำมันเริ่มร้อน เอาเลือดหมูของเราลงไปทอด หรือจะให้ถูกต้องเรียกว่าคั่วแบบมีน้ำมัน
พอเกรียมๆ แล้วตักขึ้นมาพักไว้
ถ้ากลัวอ้วน กลัวโรคหัวใจ จะช้อนน้ำมันออกมาบ้างก็ได้ แล้วเอากระเทียมที่สับๆ เตรียมไว้ลงไปผัดฉี่ฉ่า
พอกระเทียมหอมดีก็โยนถั่วงอกที่ล้างน้ำ เด็ดหาง และดึงปลอกดำที่หัวแล้ว ใส่กระทะลงไป
เร่งไฟแรง ผัดเร็วๆ ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว หรือถ้าชอบหวานก็ตัดน้ำตาลลงไปนิดเดียวพอ
ก่อนถั่วงอกสลดเอาเลือดหมูที่พักไว้ลง ไปผัดรวม
ตามด้วยต้นหอมที่หั่นไว้เป็นชิ้นๆ ยาวประมาณ 1 นิ้ว
เคล้าให้เข้ากันดี แล้วรีบตักขึ้น
ถ้าทำได้เร็วๆ ถั่วงอกของเราจะยังไม่นิ่มปวกเปียก แต่สด หวาน กรอบ
กินกับเลือดหมูที่มีกลิ่นหอมเพราะทอดมาเกรียมๆ
บอกแล้วว่าเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ
ถูกดี มีประโยชน์ อร่อยด้วย
กินไปก็รำลึกความหลังไปด้วย
อร่อยขึ้นไปใหญ่
ขอบคุณพิเศษ นสพ ข่าวสด http://www.khaosod.co.th/
อร่อยไปอีกแบบ
แต่งงานแล้ว มาพึ่งบารมี (และฝีมือ) คุณแม่ยาย ก็ได้กินผัดถั่วงอกเลือดหมูรสเดียวกันกับที่แม่เคยทำเปี๊ยบ
ก็ยังไม่นึกอยากจะลงมือเอง จนกระทั่งคุณยายผัดให้กินอีกเมื่อไม่กี่วันก่อน
กินเช้าเสร็จ หิ้วใส่ปิ่นโตมากินเที่ยงที่ที่ทำงานอีก
ตามประสาพวกย้ำคิดย้ำทำ(ฮา)
แล้วก็นึกได้ว่าที่ผ่านมาคิดเอาเองทั้งนั้นว่าผัดถั่วงอกทำยังไง ไม่เคยถามผู้ลงมือปฏิบัติเลย
ว่าแล้วก็ไปปะเหลาะถามคุณแม่ยายว่าขั้นตอนก่อนจะมาเป็นจานๆ วางบนโต๊ะนี่ต้องทำยังไงบ้าง
ฟังแล้วก็เอ๋อไปเลย
สูตรคุณแม่ยายมีอย่างนี้ครับ
เริ่มต้นจากเลือดหมู จะให้หมดคาว ซื้อมาแล้วหั่นเป็น ชิ้นใหญ่ๆ เอาไปลวกน้ำเดือดสัก 3 รอบ
ตั้งกระทะ ไฟกลาง ใส่น้ำมันลงไปพองาม พอน้ำมันเริ่มร้อน เอาเลือดหมูของเราลงไปทอด หรือจะให้ถูกต้องเรียกว่าคั่วแบบมีน้ำมัน
พอเกรียมๆ แล้วตักขึ้นมาพักไว้
ถ้ากลัวอ้วน กลัวโรคหัวใจ จะช้อนน้ำมันออกมาบ้างก็ได้ แล้วเอากระเทียมที่สับๆ เตรียมไว้ลงไปผัดฉี่ฉ่า
พอกระเทียมหอมดีก็โยนถั่วงอกที่ล้างน้ำ เด็ดหาง และดึงปลอกดำที่หัวแล้ว ใส่กระทะลงไป
เร่งไฟแรง ผัดเร็วๆ ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว หรือถ้าชอบหวานก็ตัดน้ำตาลลงไปนิดเดียวพอ
ก่อนถั่วงอกสลดเอาเลือดหมูที่พักไว้ลง ไปผัดรวม
ตามด้วยต้นหอมที่หั่นไว้เป็นชิ้นๆ ยาวประมาณ 1 นิ้ว
เคล้าให้เข้ากันดี แล้วรีบตักขึ้น
ถ้าทำได้เร็วๆ ถั่วงอกของเราจะยังไม่นิ่มปวกเปียก แต่สด หวาน กรอบ
กินกับเลือดหมูที่มีกลิ่นหอมเพราะทอดมาเกรียมๆ
บอกแล้วว่าเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ
ถูกดี มีประโยชน์ อร่อยด้วย
กินไปก็รำลึกความหลังไปด้วย
อร่อยขึ้นไปใหญ่
ขอบคุณพิเศษ นสพ ข่าวสด http://www.khaosod.co.th/