ตำนานดาวลูกไก่รุ่นที่ 5 ซูบารุ เลกาซี 2.0ไอ แวกอน

ถ้าคุณชอบรถยนต์ซึ่งสามารถบรรทุกสัมภาระได้เยอะ ๆ แต่ไม่ชอบรถทรงสูงแบบรถเอสยูวีและไม่ชอบรถทรงเหลี่ยม ๆ อย่างรถตู้ คงต้องลองมองหารถยนต์แบบที่เรียกว่า สเตชั่นแวกอน มาใช้แทนก็น่าจะเหมาะสมกว่า ซึ่งรถแบบนี้ในบ้านเรามีขายอยู่หลายยี่ห้อ อาทิ เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี250 เอสเตท วอลโว่ วี50 เอสเตท และ ซูบารุ เลกาซี 2.0 ไอ แวกอน คันที่นำมาทดลองขับในอาทิตย์นี้ 

เลกาซี 2.0 ไอ แวกอน เป็นรถแบบสเตชั่นแวกอนรุ่นล่าสุดของค่ายดาวลูกไก่ซูบารุ สำหรับความเป็นมาของรถในตระกูลเลกาซีนั้นต้องนับย้อนหลังไปเมื่อ 22 ปีก่อน เมื่อซูบารุได้เปิดตัวรถเลกาซีรุ่นแรกทั้งแบบ 4 ประตูซีดานและ 5 ประตูสเตชั่นแวกอนให้ชาวโลกได้ยลโฉมกันในเดือนมกราคมปี ค.ศ. 1989 ที่ญี่ปุ่นจนถึงวันนี้ ซูบารุพัฒนารถเลกาซีออกมาทั้งหมด 5 รุ่น สำหรับในบ้านเราทางมอเตอร์อิมเมจตัวแทนจำหน่ายของซูบารุ ได้นำเข้ามาจำหน่ายอยู่ 2 รุ่นคือ เลกาซี 2.0 ไอ ซีดาน ราคา 1,988,000 บาท และ เลกาซี 2.0 ไอ แวกอน 5 ประตู ราคา 2,058,000 บาท 

ด้านสมรรถนะ แม้ว่าเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร 150 แรงม้าที่ใช้อยู่ ออกจะดูเล็กไปหน่อยเมื่อเทียบกับคู่แข่ง แต่พอได้ลองขับรถดูแล้วกลับรู้สึกว่า เรี่ยวแรงของเครื่องบล็อกนี้ดีอยู่ในขั้นที่น่าพอใจ เพียงแต่ผู้ขับต้องเข้าใจและรู้จังหวะการทำงานคือ ถ้าขับแบบปกติไม่ต้องทำอะไร ปล่อยทุกอย่างให้ระบบของรถจัดการเอง รถจะมีอาการอืด ๆ หน่อยตอนออกตัวกับช่วงเร่งแซง โดยเฉพาะความเร็วรอบเครื่องยนต์ต่ำกว่า 2,000 รอบ/นาที

ถ้านึกอยากจะขับ เลกาซีแบบสนุก ๆ ต้องเลี้ยงความเร็วรอบเครื่องยนต์ไว้ให้ได้สัก 2,500-3,000 รอบ/นาที ซึ่งเป็นช่วงที่เครื่องยนต์ให้แรงบิดสูงสุดและเปลี่ยนระบบเกียร์มาใช้แบบธรรมดาคือตัวผู้ขับเลือกอัตราทดเอง เมื่ออยากเร่งความเร็วขึ้น ให้ใช้เกียร์แค่ 1-4 พอ ส่วนเกียร์ 5-6 นั้นจะมีอัตราทดแบบโอเวอร์ไดร์ฟ ซึ่งได้ความประหยัดแต่ไม่ได้กำลัง แค่นี้เลกาซีก็จะให้ความปราดเปรียวได้ดังใจปรารถนา สำหรับอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันนั้นเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 9-10 กม./ลิตร 

สำหรับการควบคุมรถนั้น ตัวพวงมาลัยไฟฟ้ามีน้ำหนักกำลังดี เสียแต่มีระยะฟรีน้อยและตอบสนองไวไปหน่อย ทำให้ต้องคอยแต่งพวงมาลัยให้ตรงทางอยู่เรื่อย ๆ โดยเฉพาะช่วงความเร็วสูง ๆ ส่วนการทำงานของระบบกันสะเทือนนั้นออกแนวนุ่มและหนึบดี
 คือสามารถดูดซับแรงกระแทกจากพื้นถนนที่ไม่เรียบได้อย่างน่าประทับใจ ทำให้ตัวรถมีความนุ่มนวลนั่งสบาย จุดเด่นอีกอย่างที่เหนือกว่าคู่แข่งก็คือ เลกาซี แวกอนได้รับติดตั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา ซึ่งคอยช่วยควบคุมและกระจายกำลัง

ไปยังล้อทั้ง 4 อย่างเหมาะตามสภาพถนน ทำให้รถมีความมั่นคงสูง แม้จะเข้าโค้งแรง ๆ ก็ยังให้ความรู้สึกถึงการยึดเกาะถนนที่มั่นคง

สรุปโดยรวมพอได้ลองขับเลกาซี แวกอนแล้ว เรื่องเครื่องเล็กไม่ใช่ปัญหา ส่วนบรรดาอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและมาตรฐานความปลอดภัยต่าง ๆ ก็มีมาให้ครบครัน แต่ที่ทำให้ขัดใจเมื่อแรกเห็นก็ตรงตัวเบาะที่หุ้มด้วยผ้าแทนที่จะเป็นหนังแท้ กับมีเบาะนั่งไฟฟ้ามาให้เฉพาะด้านคนขับเท่านั้นเอง

เหล่าคู่แข่งของ ซูบารุ เลกาซี

เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี250 ซีจีไอ เอสเตท : มิติ (ยาว/กว้าง/สูง) 4,895/1,854/1,512 มม. เครื่องยนต์ 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบ ความจุกระบอกสูบ 1,796  ซีซี กำลัง 204 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 310 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000-4,300 รอบ/นาที เกียร์ อัตโนมัติ 5 สปีดพร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์แบบวันทัช ราคา 4,949,000 บาท

วอลโว่ วี50 เอสเตท : มิติ (ยาว/กว้าง/สูง) 4,522/1,845/1,457 มม. เครื่องยนต์ 4 สูบแถวเรียง  DOHC 16 วาล์ว ความจุกระบอกสูบ 1,999 ซีซี กำลัง 145 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 106 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที เกียร์ อัตโนมัติ ซีวีที ราคา 1,799,000  บาท

บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์1 เอสไดร์ฟ 1.8ไอ : มิติ (ยาว/กว้าง/สูง) 4,454/1,798/1,545 มม. เครื่องยนต์ 4 สูบแถวเรียง  DOHC 16 วาล์ว ความจุกระบอกสูบ 1,995 ซีซี กำลัง 130 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-3,000 รอบ/นาที เกียร์ อัตโนมัติ 6 สปีดราคา 2,149,000 บาท

Credit : http://www.dailynews.co.th/