คอลัมน์ เทสต์ คาร์
โดย วุฒิณี ทับทอง
แม้จะไม่ได้เข้าร่วมงานมอเตอร์โชว์ปีนี้ แต่ เสี่ยอภิชัย ธรรมศิรารักษ์ แห่งค่ายซูบารุ ก็ไม่ขอทิ้งโอกาส จัดทริปทดสอบรถยนต์ซูบารุเพื่อสร้างความเคลื่อนไหว นัยว่าแม้ไม่ร่วมงาน แต่ก็ยังมีรถพร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้าชาวไทย โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ชื่นชอบความแตกต่าง งานนี้ทีมงานซูบารุตั้งใจขนเอารถในกองทัพของ "ดาวลูกไก่" มาให้บรรดาสื่อมวลชนได้ทดสอบกันแทบจะครบไลน์ ที่ ซูบารุเรียกว่า กลุ่มพิเศษ เพื่อเอาใจลูกค้า
"ประชาชาติธุรกิจ" มีโอกาสได้ร่วมทริปทดสอบเช่นเคย โดยทีมงานเลือกเส้นทางและรูปแบบการทดสอบครั้งนี้เป็นในแบบ "เช้าไป-เย็นกลับ" เส้นทาง "กรุงเทพฯ-สวนผึ้ง" ราชบุรี เริ่มต้นจุดสตาร์ตที่สถานีบริการน้ำมันบนถนนวิภาวดีฯ พร้อมทั้งนัดแนะเส้นทางและจุดพักรถ พร้อมจัดสรรบรรดาสมาชิกผู้ร่วมทดสอบที่ประจำรถแต่ละคันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาออกเดินทาง
กับ ซูบารุ เลกาซี "ประชาชาติธุรกิจ" พร้อมเพื่อนสมาชิกอีก 3 หน่วย จากสำนักข่าวสด โพสต์ทูเดย์ และผู้จัดการ เรียกว่าเต็มอัตราศึก ครบทุกที่นั่ง
แวกอนตัวนี้ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เป็นรุ่นที่ 5 ที่ซูบารุ ตั้งใจจะปั้นให้เป็นรถธงในการทำตลาด ว่ากันว่าซูบารุวางตำแหน่งสินค้าให้อยู่ระหว่างรถพรีเมี่ยมญี่ปุ่นอย่างแอคคอร์ด หรือคัมรี่ และวางตัวให้สูสีกับรถหรูอย่างเลกซัส
ช่วงเริ่มต้นทดสอบ "ประชาชาติธุรกิจ" ไม่รอช้า ขอ กระโดดเข้าไปนั่งที่เบาะด้านหลังของผู้ขับ เป็นผู้โดยสารที่ดี และไม่ลืมคว้าเข็มขัดนิรภัยมาคาดเพื่อความมั่นใจไม่ประมาท ภายในห้องโดยสารของรถคันนี้ถือว่ากว้างขวางกว่าซีดานทั่ว ๆ ไป ไม่นับรวมส่วนที่บรรทุกสัมภาระ ตัวถังมีขนาดใหญ่ และการจัดวางเบาะในห้องโดยสารก็พยายามเน้นความสะดวกสบาย ประโยชน์ใช้สอย และอเนกประสงค์ เหมาะสมกับการใช้งานในรูปแบบครอบครัว
ส่วนการจัดวางอุปกรณ์ถือว่าค่อนข้าง "เนี้ยบ" เนื่องจากรถคันนี้นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นทั้งคัน ดังนั้นเรื่องความใส่ใจในรายละเอียดต่าง ๆ การันตีได้ระดับหนึ่ง
แต่ที่อาจจะไม่ถูกใจกับคนใช้งานในเขตเมืองร้อนอย่างบ้านเรา ก็ตรงที่ห้องโดยสารด้านหลังไม่มี "ช่องแอร์" กำลังลมจากด้านหน้าช่วงแดดจัด ๆ มาไม่ถึงข้างหลัง และวัสดุอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ควรมีมา เมื่อเทียบกับรถในราคาระดับเดียวกันอย่างกล้องมองหลัง และเซ็นเซอร์กะระยะ มีไม่ครบ คาดว่าน่าจะเป็นผลมาจากข้อจำกัดในการนำเข้าทั้งคัน ทำให้ซูบารุจำเป็นต้องตัดอุปกรณ์บางอย่างออกไป
หลังจากเริ่มสตาร์ตในจุดพักรถย่านนครปฐม ได้เวลาที่ "ประชาชาติธุรกิจ" จะต้องไปนั่งที่ตำแหน่งหลังพวงมาลัย ปรับตำแหน่งอุปกรณ์ต่าง ๆ กระจกมองข้าง-มองหลัง ตำแหน่งเบาะที่นั่ง และพวงมาลัยให้เหมาะสมกับสรีระแล้ว เมื่อทุกอย่างพร้อมทั้งรถทั้งคน ก็ได้เวลามุ่งหน้าสู่ อ.สวนผึ้งทันที
ด้วยเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ที่ 150 แรงม้า ที่ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติแปรผัน (CVT) 6 จังหวะ ในช่วงการออกตัว หรือการเร่งแซงนั้นอาจจะไม่ถึงกับจี๊ดจ๊าด เหมือนกับที่จินตนาการไว้ก่อนจะได้สัมผัสกับรถจากค่ายนี้เท่าใดนัก เพราะเท่าที่เคยได้ยินมา เจ้าดาวลูกไก่ตัวนี้มีทั้งความแรง หนึบหนับสะใจ
แต่เมื่อย้อนกลับมาคิดถึงรูปแบบการใช้งานของรถสไตล์แวกอน ซึ่งเหมาะสำหรับครอบครัว ก็ถือว่าพอรับได้ และเมื่อออกตัวได้ระยะหนึ่ง กำลังจากเครื่องยนต์ก็ทำงานได้ดีขึ้น เรื่อย ๆ ยิ่งในช่วงตีนปลายจี๊ดจ๊าดพอตัวเชียว
และแม้ในช่วงที่มีพระพิรุณโปรยปรายมาเป็นระยะ ๆ การทำความเร็วสูง หรือจังหวะเข้าโค้ง ต้องบอกว่ารถคันนี้ค่อนข้างให้ความมั่นใจ โดยเฉพาะเรื่องการยึดเกาะถนน และระบบ ช่วงล่างถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดีกับระบบการขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ
มาถึงบรรทัดนี้ ซูบารุ เลกาซี่ แวกอนคันนี้ อาจจะไม่ใช่ "ตัวจี๊ด" ในเรื่องกำลังเครื่องยนต์ คือถ้าเป็นขาซิ่งอาจจะต้องชั่งใจกันเล็กน้อย
แต่ถ้าต้องการใช้เป็น "รถครอบครัว" ที่เน้นความสะดวกสบาย และความกว้างขวางของห้องโดยสาร ประกอบกับสนนราคาแค่ 2.05 ล้านบาท ก็ถือว่าพอสมน้ำสมเนื้อ ใครที่ชื่นชอบ เสี่ยอภิชัยยินดีต้อนรับผู้ที่จะไปทำความรู้จักกับรถคันนี้ที่โชว์รูมซูบารุก่อนตัดสินใจ
Credit : http://www.prachachat.net/