วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2554

ซูบารุ เลกาซี แวกอน อีกทางเลือกของรถครอบครัว

คอลัมน์ เทสต์ คาร์ 
โดย วุฒิณี ทับทอง
แม้จะไม่ได้เข้าร่วมงานมอเตอร์โชว์ปีนี้ แต่ เสี่ยอภิชัย ธรรมศิรารักษ์ แห่งค่ายซูบารุ ก็ไม่ขอทิ้งโอกาส จัดทริปทดสอบรถยนต์ซูบารุเพื่อสร้างความเคลื่อนไหว นัยว่าแม้ไม่ร่วมงาน แต่ก็ยังมีรถพร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้าชาวไทย โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ชื่นชอบความแตกต่าง งานนี้ทีมงานซูบารุตั้งใจขนเอารถในกองทัพของ "ดาวลูกไก่" มาให้บรรดาสื่อมวลชนได้ทดสอบกันแทบจะครบไลน์ ที่ ซูบารุเรียกว่า กลุ่มพิเศษ เพื่อเอาใจลูกค้า
"ประชาชาติธุรกิจ" มีโอกาสได้ร่วมทริปทดสอบเช่นเคย โดยทีมงานเลือกเส้นทางและรูปแบบการทดสอบครั้งนี้เป็นในแบบ "เช้าไป-เย็นกลับ" เส้นทาง "กรุงเทพฯ-สวนผึ้ง" ราชบุรี เริ่มต้นจุดสตาร์ตที่สถานีบริการน้ำมันบนถนนวิภาวดีฯ พร้อมทั้งนัดแนะเส้นทางและจุดพักรถ พร้อมจัดสรรบรรดาสมาชิกผู้ร่วมทดสอบที่ประจำรถแต่ละคันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาออกเดินทาง 
กับ ซูบารุ เลกาซี "ประชาชาติธุรกิจ" พร้อมเพื่อนสมาชิกอีก 3 หน่วย จากสำนักข่าวสด โพสต์ทูเดย์ และผู้จัดการ เรียกว่าเต็มอัตราศึก ครบทุกที่นั่ง 
แวกอนตัวนี้ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เป็นรุ่นที่ 5 ที่ซูบารุ ตั้งใจจะปั้นให้เป็นรถธงในการทำตลาด ว่ากันว่าซูบารุวางตำแหน่งสินค้าให้อยู่ระหว่างรถพรีเมี่ยมญี่ปุ่นอย่างแอคคอร์ด หรือคัมรี่ และวางตัวให้สูสีกับรถหรูอย่างเลกซัส

ช่วงเริ่มต้นทดสอบ "ประชาชาติธุรกิจ" ไม่รอช้า ขอ กระโดดเข้าไปนั่งที่เบาะด้านหลังของผู้ขับ เป็นผู้โดยสารที่ดี และไม่ลืมคว้าเข็มขัดนิรภัยมาคาดเพื่อความมั่นใจไม่ประมาท ภายในห้องโดยสารของรถคันนี้ถือว่ากว้างขวางกว่าซีดานทั่ว ๆ ไป ไม่นับรวมส่วนที่บรรทุกสัมภาระ ตัวถังมีขนาดใหญ่ และการจัดวางเบาะในห้องโดยสารก็พยายามเน้นความสะดวกสบาย ประโยชน์ใช้สอย และอเนกประสงค์ เหมาะสมกับการใช้งานในรูปแบบครอบครัว

ส่วนการจัดวางอุปกรณ์ถือว่าค่อนข้าง "เนี้ยบ" เนื่องจากรถคันนี้นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นทั้งคัน ดังนั้นเรื่องความใส่ใจในรายละเอียดต่าง ๆ การันตีได้ระดับหนึ่ง

แต่ที่อาจจะไม่ถูกใจกับคนใช้งานในเขตเมืองร้อนอย่างบ้านเรา ก็ตรงที่ห้องโดยสารด้านหลังไม่มี "ช่องแอร์" กำลังลมจากด้านหน้าช่วงแดดจัด ๆ มาไม่ถึงข้างหลัง และวัสดุอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ควรมีมา เมื่อเทียบกับรถในราคาระดับเดียวกันอย่างกล้องมองหลัง และเซ็นเซอร์กะระยะ มีไม่ครบ คาดว่าน่าจะเป็นผลมาจากข้อจำกัดในการนำเข้าทั้งคัน ทำให้ซูบารุจำเป็นต้องตัดอุปกรณ์บางอย่างออกไป

หลังจากเริ่มสตาร์ตในจุดพักรถย่านนครปฐม ได้เวลาที่ "ประชาชาติธุรกิจ" จะต้องไปนั่งที่ตำแหน่งหลังพวงมาลัย ปรับตำแหน่งอุปกรณ์ต่าง ๆ กระจกมองข้าง-มองหลัง ตำแหน่งเบาะที่นั่ง และพวงมาลัยให้เหมาะสมกับสรีระแล้ว เมื่อทุกอย่างพร้อมทั้งรถทั้งคน ก็ได้เวลามุ่งหน้าสู่ อ.สวนผึ้งทันที

ด้วยเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ที่ 150 แรงม้า ที่ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติแปรผัน (CVT) 6 จังหวะ ในช่วงการออกตัว หรือการเร่งแซงนั้นอาจจะไม่ถึงกับจี๊ดจ๊าด เหมือนกับที่จินตนาการไว้ก่อนจะได้สัมผัสกับรถจากค่ายนี้เท่าใดนัก เพราะเท่าที่เคยได้ยินมา เจ้าดาวลูกไก่ตัวนี้มีทั้งความแรง หนึบหนับสะใจ

แต่เมื่อย้อนกลับมาคิดถึงรูปแบบการใช้งานของรถสไตล์แวกอน ซึ่งเหมาะสำหรับครอบครัว ก็ถือว่าพอรับได้ และเมื่อออกตัวได้ระยะหนึ่ง กำลังจากเครื่องยนต์ก็ทำงานได้ดีขึ้น เรื่อย ๆ ยิ่งในช่วงตีนปลายจี๊ดจ๊าดพอตัวเชียว

และแม้ในช่วงที่มีพระพิรุณโปรยปรายมาเป็นระยะ ๆ การทำความเร็วสูง หรือจังหวะเข้าโค้ง ต้องบอกว่ารถคันนี้ค่อนข้างให้ความมั่นใจ โดยเฉพาะเรื่องการยึดเกาะถนน และระบบ ช่วงล่างถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดีกับระบบการขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ

มาถึงบรรทัดนี้ ซูบารุ เลกาซี่ แวกอนคันนี้ อาจจะไม่ใช่ "ตัวจี๊ด" ในเรื่องกำลังเครื่องยนต์ คือถ้าเป็นขาซิ่งอาจจะต้องชั่งใจกันเล็กน้อย

แต่ถ้าต้องการใช้เป็น "รถครอบครัว" ที่เน้นความสะดวกสบาย และความกว้างขวางของห้องโดยสาร ประกอบกับสนนราคาแค่ 2.05 ล้านบาท ก็ถือว่าพอสมน้ำสมเนื้อ ใครที่ชื่นชอบ เสี่ยอภิชัยยินดีต้อนรับผู้ที่จะไปทำความรู้จักกับรถคันนี้ที่โชว์รูมซูบารุก่อนตัดสินใจ

Credit : http://www.prachachat.net/