วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ลำพู 3 ปากอ่าวตาปี ซิงๆจากทะเล

สวรรค์ในครัว
เขียง มะขาม



ยังวนเวียนอยู่ในสุราษฎร์อีกอาทิตย์หนึ่งครับ

หนที่แล้วมื้อเที่ยงพาไปกิน 'ข้าวแกงป้าเขียว' รสมือรสชาติแบบคนใต้มาแล้ว

มื้อนี้อุตส่าห์มาถึงเมืองชายทะเลแล้วไม่ไปลองอาหารทะเลก็เสียเที่ยว

ลงจากศาลกันคณะเบ้อเริ่มช่วงบ่ายๆ มองหน้ากันไปกันมา เพราะกว่าเครื่องบิน จะออกก็ค่ำ ตกลงใจให้เจ้าถิ่นเป็นคนเลือกว่าจะพาไปไหน

เขาก็จับยัดๆ กันใส่รถแล้วพาออกจากเมือง มุ่งหน้าไปเส้นปากอ่าว ไปจนถึงสุดทางแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปหาแม่น้ำ หรือถ้าไปไม่ถูก ถามเขาว่าซอยปากน้ำ 18 ไปทางไหนแล้วก็วิ่งไปตามคำบอก

หรือไม่อย่างนั้นโทรศัพท์ถามที่ 0-7728-6995

แถวนั้นเรียงรายกันอยู่หลายร้าน แต่เจ้าถิ่นพาเรามาถึงสุดทาง ชื่อร้าน 'ลำพู 3' ร้านริมน้ำ มองไปข้างหน้าถ้าไม่มีเรือบังจะเห็นปากอ่าวชัด

ตอนไปถึงฝนตั้งเค้าปรอยๆ สักพักก็ตกมาเป็นเม็ดใหญ่ แล้วเดี๋ยวเดียวก็หยุด จากนั้นลมแม่น้ำเย็นๆ ก็พัดกระหน่ำใส่ตลอด บรรยากาศชวนกินข้าวเป็นยิ่งนัก

อย่าช้า-สั่งเลย

อย่างแรกที่มาคือ ยำไข่แมงดา ยำมาได้เผ็ดร้อนกำลังดี ไข่แมงดาสดมันเป็นอันมาก

เป็นเหตุให้ตบะแตกกันเป็นแถว ว่าจะไม่สั่งน้ำมังสวิรัติมาประกอบรายการแล้วเชียว-พลาดอีกจนได้ (ฮา)

เดี๋ยวเดียว หมึกย่าง ตามมา หมึกหอมหั่น มาชิ้นกำลังดี ไม่หนาเกินจนเคี้ยวไม่ไหว ไม่ย่างนานจนเหนียว สดหวาน

ไล่กันมี แกงเหลืองปลากระบอก เผ็ดร้อนตามแบบฉบับคนใต้ เอาไว้กินเรียกเหงื่อเรียกน้ำย่อย

มาวางติดๆ กันคือ ทอดมันปลากราย หนึบเนื้อปลา เครื่องแกงก็รสดี

ต่อด้วย ห่อหมก ที่เจ้าถิ่นบอกว่าเป็นของ ขึ้นชื่อประจำร้าน ชิมแล้วอร่อยตามคำร่ำลือ เพราะเครื่องแกงถึง แต่ติดตรงหวานไปหน่อยตามแบบฉบับอาหารสมัยใหม่

และแล้ว กุ้งแม่น้ำเผา ก็มาถึง ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง คน ที่ยังไม่กินข้าวก็เรียกหาข้าว เอาคลุกกับมันหัวกุ้ง

โป๊ะแตก ยกมาเป็นหม้อหยวนโล้ เลยบอกให้น้องเขาช่วยกลับไปตักแจกเป็นถ้วยเล็ก ซดน้ำต้มยำชื่นใจ

ทีเด็ดคือจานต่อมา ปลากุเลาเผา ทั้งตัว เนื้อปลาสด หอมถ่านหอมใบตอง แถมเผามาไม่สุกเกิน ข้างในยังหวานฉ่ำ

และกลัวจะไม่อิ่มกันจริง มีการสั่ง กรรเชียงปูนึ่ง มาตบท้ายอีก ทีแรกนั้นจะสั่งปูม้า แต่น้องเขาบอกซื่อๆ ว่า ปูของใหม่ยังไม่มาส่ง ของเก่าไม่สดไม่อยากขาย

ได้ใจไปเต็มๆ เลยน้อง

ทั้งหมดที่จาระไนมานั้น สั่งกันมาอย่างละ 2 ชุด ผู้ชายตัวโตๆ 11 คนรุมกินโตŠะกันแล้วก็ยังไม่หมด ต้องมีห่อกลับ

คิดค่าเสียหายออกมา รวมน้ำอย่างว่าอีก 7-8 ขวดแล้วยังไม่ถึง 5 พัน

ชาวกรุงหลายคนก็อาฆาตว่า หนหน้าจะมาล้างแค้นอีกรอบ (ฮา)
**
**
Credit : http://www.khaosod.co.th/