จิปาถะ D: room collection เรื่องเล่าจากจุดเล็กๆ

เฟอร์นิเจอร์แบรนด์ใหม่จากฝีมือนักออกแบบไทย ดีไซน์ที่สร้างจากความต้องการใช้งานจริงๆ ตามลักษณะการใช้ชีวิตของผู้คนยุคนี้
เฟอร์นิเจอร์ เป็นสินค้าอีกประเภทหนึ่งที่สะท้อนวิถีการใช้ชีวิตของผู้คนในแต่ละยุคสมัย แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ฝีมือคนไทยแบรนด์ใหม่ที่เริ่มต้นนับก้าวที่หนึ่งในปีนี้ภายใต้ชื่อ room collection (รูม คอลเลคชั่น) กำลังบอกวิถีใช้ชีวิตของคนไทยวันนี้ในบางแง่มุม

รูม คอลเลคชั่น เป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์และสินค้าแต่งบ้านของ นิตยสาร room ซึ่งคุณ นวลวรรณ สุพฤฒิพานิชย์ บรรณาธิการบริหารนิตยสาร room กล่าวว่า หลังจากปรับคอนเซปต์นิตยสารจากเดิมคือ room is everywhere (ที่ไหนก็ได้ก็คือห้องของคุณ) มาเป็นนิตยสารที่มีความเป็นดีไซเนอร์มากขึ้นทั้งรูปเล่มและเนื้อหา สิ่งหนึ่งที่น่าจะแสดงศักยภาพความเป็นดีไซเนอร์ได้ คือการ 'ออกแบบและสร้างแบรนด์สินค้า' เป็นของตัวเอง

ทีมงานนิตยสารรูม กำหนดปรัชญาในการออกแบบเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ 'รูม คอลเลคชั่น' ไว้ว่า โมเดิร์น เฟอร์นิเจอร์ ฟอร์ แพร็คติเคิล ลีฟวิ่ง (Modern Furniture for Practical Living) ซึ่งไปในทางเดียวกับนิตยสารคือ Idea for Practical Living หมายถึง 'ความคิดที่ใช้งานได้จริง'

"พอเรามาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ ไม่ใช่รูปลักษณ์สวยอย่างเดียว แต่ผู้ใช้จะต้องรู้สึกว่า ได้ตอบสนองความต้องการการใช้งานของเขา ฟังก์ชันการใช้สอยต้องดี ควบคู่ไปกับความงาม" นวลวรรณ อธิบายเพิ่มเติม

ปรัชญาหลักในการออกแบบ 'รูม คอลเลคชั่น' คือ แปลความต้องการใช้งานตามไลฟ์สไตล์ของผู้คนมาเป็นเฟอร์นิเจอร์และแอคเซสเซอรี่

เฟอร์นิเจอร์คอลเลคชั่นแรกของ 'รูม คอลเลคชั่น' ชื่อ Love Wood (เลิฟ วู้ด) เป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้จำนวน 24 ชิ้น

"คอลเลคชั่นแรกที่เราเลือกไม้ เพราะเรามองว่ากว่า 90% ของคนแต่งบ้าน ยังหลงใหลและชื่นชอบวัสดุไม้ ด้วยความที่ไม้ให้ความรู้สึกอบอุ่น ใกล้ชิดธรรมชาติ ลวดลายต่างๆ ของไม้เป็นเสน่ห์ธรรมชาติของตัววัสดุ และสามารถนำมาเล่นดีไซน์ได้มากมาย แต่ไม่ได้หมายความว่า รูม คอลเลคชั่น จะเป็นไม้ไปตลอด จริงๆ ภาพลักษณ์ของแบรนด์คือ เฟอร์นิเจอร์อะไรก็ได้ที่ตอบโจทย์ฟังก์ชันการใช้งานได้เป็นจริง" นวลวรรณ กล่าว

ยกตัวอย่าง Room Book Mark Shelf ชั้นวางหนังสือที่ออกแบบเพื่อให้นักอ่านเข้าถึงหนังสือเล่มโปรดของตัวเองได้ง่ายและสะดวก โดยออกแบบให้มีพื้นที่จัดวางหนังสือที่หยิบบ่อยเป็นแนวตั้ง ซึ่งหนังสือแนวตั้งเล่มโปรดจะกลายเป็นที่กั้นพื้นที่ใช้สอยชั้นบนที่ใช้วางของใช้กระจุกกระจิกและของโชว์ไปในตัว ชั้นวางหนังสือนี้ออกแบบโดย กวิน ทัดเทียม ดีไซเนอร์ของนิตยสารรูม

"ผมมองที่ความต้องการของคนที่อ่านหนังสือจริงๆ เขาต้องการอะไร เราจะดูในจุดนี้ และจะเล่าเรื่องยังไง ถ้าอาทิตย์หนึ่งมีหนังสือต้องการอ่านประจำสองเล่ม เขาจะวางตรงไหนที่จะแยกจากหนังสือเดิมที่สามารถหยิบออกมาได้ง่าย หรือไม่ต้องค้นหามาก จุดกำเนิดมาจากเรื่องราวของผู้ใช้งาน คนเราต้องการอะไรจากสิ่งนี้ หาสัญญาณจากจุดเล็กๆ แล้วมาพัฒนาต่อ" คุณกวิน อธิบาย

เช่นเดียวกับ Room Hanger ที่แขวนอเนกประสงค์ ลบภาพเดิมๆ ของราวแขวนผ้า เน้นความเรียบง่าย แต่ใช้ประโยชน์ได้ดี ไม่ต้องซ่อนเมื่อไม่ได้ใช้งานเหมือนราวตากผ้าแบบเดิมๆ

"ผมไปห้องของคนคนหนึ่ง มีที่แขวนผ้า อาจจะเป็นกางเกงยีนส์ใส่หนึ่งอาทิตย์ มีหมวก มีพร็อบอะไรบ้าง ถ้าเป็นราวแขวนธรรมดาจะดูใหญ่ หรือดูคับเกินไปสำหรับห้อง หรือดูไม่เข้ากับห้อง พอแขวนข้าวของเข้าไปก็ดูเป็นจุดอับของห้องไปเลย ดูไม่สวย หรือคอนโด ต้องการแต่งให้สวย แต่พอมีราวแขวนผ้าเข้าไป ทำให้เหมือนดีไซน์ทั้งหมดเสียไป ผมก็เลยมานั่งคิดว่า ทำไมตัวแขวนผ้าจึงต้องมีหน้าตาอย่างนั้นอย่างเดียว มีวิธีการอื่นไหมที่ยังแขวนผ้าได้ แต่สามารถสวยงาม อยู่ได้ด้วยตัวเอง" คุณกวินกล่าวถึงที่มาในการออกแบบ Room Hanger ของเขาที่คำนวณความสูงแล้วว่าเมื่อแขวนเสื้อผ้าเข้าไปแล้วชายผ้าไม่ระพื้นห้อง สามารถแขวนผ้าเช็ดตัวก็ได้

แนวคิดในการออกแบบของ 'รูม คอลเลคชั่น' อีกอย่างหนึ่งคือ นำเครื่องใช้ที่คนคิดว่าไม่มีดีไซน์มาเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่

"เรานำของที่ถูกตีตรา ว่าเป็นของที่ไม่มีดีไซน์ เช่น ราวแขวนเสื้อผ้า ไม้กวาด คนจะมองและให้ความรู้สึก ว่าเป็นของไม่มีดีไซน์ ทำมาอย่างไรคนก็ต้องใช้ เราอยากจะไปในแนวทางเปลี่ยนภาพลักษณ์ของที่ไม่มีดีไซน์ ทำให้มีดีไซน์ขึ้นมา แต่ก็เป็นดีไซน์ในสไตล์ของเรา คือไม่รกรุงรัง ไม่ใช่แค่ความสวยงาม แต่เรื่องราวการใช้สอยต้องดีด้วย" คุณนวลวรรณ กล่าว

นี่คือตัวอย่างชิ้นงานบางส่วนที่เกิดจากคอนเซปต์ 'โมเดิร์น เฟอร์นิเจอร์ ฟอร์ แพร็คติเคิล ลีฟวิ่ง' ซึ่งหมายถึง การรวมประโยชน์ใช้สอยเข้ากับงานดีไซน์

"ผสมผสานให้ดูน้อยๆ แต่ใช้งานได้ดี ดีไซน์โดยรวมดูไม่ฉูดฉาด แต่เน้นเรื่องราวที่เกิดมา ทำให้งานดีไซน์ดูมีอะไรมากขึ้น มีเนื้อหาที่บอกถึงเรื่องราวของเฟอร์นิเจอร์" คุณกวินกล่าว

แต่ทีมดีไซเนอร์ของนิตยสารรูมไม่ได้ออกแบบ 'เลิฟ วู้ด' ทั้งหมด นิตยสารรูมเชิญแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ที่มีผลงานอยู่แล้วในตลาดเข้ามาร่วมงานในฐานะ ดีไซน์ พาร์ทเนอร์ส (Design Partners)

จากเฟอร์นิเจอร์คอลเลคชั่น 'เลิฟ วู้ด' จำนวน 24 ชิ้น กวิน ทัดเทียม ออกแบบไว้ 5 ชิ้น ผลงานอีก 19 ชิ้น ออกแบบโดย 'ดีไซน์ พาร์ทเนอร์ส' 6 แบรนด์ชื่อดัง กับอีก 1 เฮาส์แบรนด์ ซึ่งนิตยสารรูมพิจารณาแล้วว่า แต่ละแบรนด์มีแนวการออกแบบที่ตรงกับคอนเซปต์ของ 'รูม คอลเลคชั่น'

"โดยเราขอให้แต่ละแบรนด์ออกแบบเป็น 'สเปเชียล เอดิชั่น' ให้เรา ออกแบบใหม่ หรือแบบเดิมแต่เปลี่ยนวัสดุใหม่ ไม่มีวางขายในแบรนด์เขา แต่จะซื้อได้เฉพาะที่ รูม คอลเลคชั่น เท่านั้น" คุณนวลวรรณกล่าว

          ดีไซเนอร์ พาร์ทเนอร์ส 6 แบรนด์ ประกอบด้วย
          # o-d-a (โอดีเอ) ถนัดงานไม้ ได้รับรางวัลจากญี่ปุ่นจากการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ไม้
          # Sutasnan Pitakwong (สุทัศนันท์ พิทักษ์วงศ์) แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ไม้สัก เด่นงานไม้ เป็นงานคราฟท์เทคนิคการเข้าไม้แบบดั้งเดิม ไม่ใช้น็อต พิถีพิถันในการทำชิ้นงาน
          # objekt (ออปเจ็คต์) แบรนด์ใหม่ที่ยังไม่เคยทำเฟอร์นิเจอร์ ปกติทำบานประตูอย่างเดียวมาก่อน เจ้าของเรียนโปรดักต์ดีไซน์ เพิ่งมาริเริ่มอยากทำแบรนด์เฟอร์นิเจอร์โดยใช้เศษไม้จากการทำบานประตู
          # oggi (ออจจิ) แบรนด์ทำเฟอร์นิเจอร์ไม้ได้น่ารักมาก คอนเซปต์เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่คนเห็นแล้วยิ้มได้
          # studio 248 (สตูดิโอ สองสี่แปด) เป็นแบรนด์น้องใหม่ เน้นงานคอนเซปต์
          # romanee (รมณีย์) เป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ที่ขยายไลน์มาจาก 'แปซิฟิก วู้ด' ซึ่งเป็นเจ้าใหญ่ในประเทศไทยที่ทำไม้วีเนียร์ ด้วยความทำไม้วีเนียร์จึงมีเศษไม้เหลือมากมาย แต่ไม่ใช่แค่เศษไม้ที่ฝานออกมา ไม้บางท่อนที่ซื้อมาเอามาทำวีเนียร์ไม่ได้ ก็กลายเป็นเศษไม้ จึงตั้งแบรนด์อีกแบรนด์ชื่อ 'รมณีย์' เพื่อผลิตเฟอร์นิเจอร์
          # บ้านและสวน design (บ้านและสวน ดีไซน์) เฟอร์นิเจอร์ไม้สักคอลเลคชั่นเพื่อการกุศลของนิตยสารบ้านและสวน

นิตยสารรูมเพิ่งเปิดตัวเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ room collection ในงาน BIG & BIH 2011 ระหว่างวันที่ 19-24 เมษายนที่ผ่านมา วางจำหน่ายในลักษณะสั่งทำ (made to order) ผ่านหน้าเว็บไซต์ roommagcollection.com และรอชมสินค้าจริงได้อีกครั้งในงาน บ้านและสวน แฟร์ (ปลายเดือนตุลาคมปีนี้)

วัสดุส่วนใหญ่ในคอลเลคชั่น 'เลิฟ วู้ด' เป็น ไม้แอช (Ash) ไม้เนื้อแข็งที่มีสีขาวเกือบที่สุด ลายไม้ต่อกันได้เหมือนลายภูเขา ทำให้ความรู้สึกดูนุ่มนวลที่สุดในบรรดาไม้เนื้อแข็งที่เป็นสีขาว ให้อารมณ์ของคอลเลคชั่นเป็นมินิมอลและดูสะอาดตา นอกจากนี้ก็ยังมี ไม้วีเนียร์ ไม้สน ไม้โอ๊ค ซึ่งเป็นไม้จริงทั้งหมด จึงเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่มีความทนทานแข็งแรง ให้คุณค่าของความเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้จริง

ด้วยดีไซน์ที่มีแรงบันดาลใจจากความต้องการใช้งานจริงของผู้คนวันนี้

ภาพ : เอกรัตน์ ศักดิ์เพชร และ room collection

Credit : http://www.bangkokbiznews.com

Tags : room collection

โดย : วลัญช์ สุภากร

วันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

room collection เรื่องเล่าจากจุดเล็กๆ