วันจันทร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2554

อยู่ท่ามกลางธรรมชาติเขียวขจี พระราชวังสนามจันทร์ มนต์เสน่ห์ไม่มีเสื่อมคลาย

จังหวัดที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯอย่างนครปฐม มักถูกนักท่องเที่ยวมองว่าไม่มีสถานที่เที่ยวน่าสนใจนอกจากพระปฐมเจดีย์ แต่ที่จริงแล้วเมืองท่องเที่ยวใกล้กรุงแห่งนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทั้งทางประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ วัฒนธรรม ซ่อนไว้อย่างมากมาย วันนี้ เดลินิวส์ออนไลน์ ขอเป็นไกด์นำทางพาทุกคนเข้าไปรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่งของนครปฐม ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติเขียวขจี พระราชวังสนามจันทร์


ชื่อของ พระราชวังสนามจันทร์ อาจคุ้นหูใครหลายคน แต่มีน้อยคนนักที่จะรู้ว่าพระราชวังแห่งนี้รวบรวมเรื่องราวประวัติศาสตร์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ 6) ไว้ในรูปแบบของพิพิธภัณฑ์ ท่ามกลางบรรยากาศที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่ใกล้กรุงเทพฯแค่เอื้อม ถึงจะมีอายุกว่า 100 ปีแล้ว ความงดงามของสถาปัตยกรรมทั้งพระที่นั่งและพระตำหนักต่างๆยังคงสมบูรณ์ดีอยู่


เดินชมความงามของธรรมชาติเข้ามาเรื่อยๆก็จะมาเจอกับ พระตำหนักมารีราชรัตบัลลังก์ พระตำหนักแฝดที่สร้างคู่เชื่อมต่อกับพระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ โดยพระตำหนักมารีราชรัตบัลลังก์เป็นพระตำหนักไม้สองชั้นแบบตะวันตก มีเสาไม้กลมแกะสลักเป็นแบบนีโอคลาสสิก มีทางเชื่อมทอดยาวข้ามคูน้ำไปยังพระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ เป็นสถานที่จัดแสดงพระราชประวัติรัชกาลที่ 6 ตลอดจนการจำลองฉลองพระองค์ให้คนทั่วไปได้ชม

ในส่วนของ พระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ เป็นอาคารสองชั้นทาสีไข่ไก่ หลังคามุงกระเบื้องสีแดง เป็นสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างแบบเรอเนซองส์ของฝรั่งเศสกับอาคารแบบฮาล์ฟ ทิมเบอร์ของอังกฤษ ในช่วงปลายรัชกาล พระองค์โปรดประทับที่พระตำหนักแห่งนี้เป็นประจำ และทรงประกอบพระราชกรณียกิจต่างๆ ปัจจุบันมีการเปิดให้ชมห้องต่างๆที่พระองค์เคยใช้ประกอบพระราชกรณียกิจอย่างใกล้ชิด

บริเวณด้านหน้าพระตำหนักชาลีมงคลอาสน์มี อนุสาวรีย์ย่าเหล สุนัขทรงเลี้ยงซึ่งมีความเฉลียวฉลาดและจงรักภักดีต่อรัชกาลที่ 6 เป็นอย่างยิ่ง จึงเป็นที่โปรดปรานของพระองค์ และเมื่อย่าเหลเสียชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุ รัชกาลที่ 6 จึงโปรดให้สร้างอนุสาวรีย์ และทรงพระราชนิพนธ์คำไว้อาลัยไว้ที่นี่ด้วย โดยบริเวณพระตำหนักแฝดสองหลังนี้นับเป็นไฮไลท์สำคัญที่ใครได้มาที่นี่แล้ว ต้องแวะเข้ามาสัมผัสบรรยากาศและศึกษาหาความรู้

ใกล้กับพระตำหนักมารีราชรัตบัลลังก์ทุกคนจะเห็น กลุ่มเรือนไทยแปดหลังที่เชื่อมกันด้วยนอกชาน ตัวเรือนทำด้วยไม้สักล้วนใช้วิธีเข้าไม้ตามวิธีสร้างเรือนไทยโบราณตั้งซ่อนอยู่ภายใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่นั่นก็คือพระตำหนักทับขวัญ ซึ่งต้องบอกว่าความร่มเย็นในจุดนี้น่าจะถูกใจนักท่องเที่ยวที่อยากนั่งเอนกายพักผ่อน หลังจากเดินชมความงดงามโดยรอบมาเป็นเวลานาน
โดดเด่นดึงดูดสายตานักท่องเที่ยวไม่แพ้ใครต้องยกให้อีก 2 พระที่นั่งคู่แฝด พระที่นั่งสามัคคีมุขมาตย์และ พระที่นั่งวัชรีรมยา โดยพระพี่นั่งสามัคคีมุขมาตย์ เป็นพระที่นั่งโถงใหญ่ในพระราชวังสนามจันทร์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงใช้เป็นสถานที่จัดงานหลายอย่าง เช่น งานสโมสรสันนิบาต เสด็จฯออกพบปะขุนนาง เป็นสถานที่ฝึกอบรมกองเสือป่า และใช้เป็นที่แสดงโขนละครต่างๆ เนื่องจากพระที่นั่งองค์นี้กว้างขวางและสามารถจุคนเป็นจำนวนมาก จึงมีชื่อเรียกติดปากชาวบ้านว่า โรงโขน
ด้าน พระที่นั่งวัชรีรมยา สร้างขึ้นภายหลังเป็นพระที่นั่งทรงไทย 2 ชั้น มุงกระเบื้องเคลือบทำนองเดียวกับหลังคาพระที่นั่งในพระบรมมหาราชวัง มีคันทวย ช่อฟ้า ใบระกา นาคสะดุ้ง และหางหงส์งดงาม โดยพระที่นั่งนี้ใช้เป็นที่ทรงงานและประทับเป็นบางครั้งคราว ถ้าเรากวาดสายตาไปโดยรอบจะเห็นได้ว่ายังมีพระตำหนักและพระที่นั่งที่สวยงามอีกหลายแห่งให้ทุกคนได้เข้ามาสัมผัส ถ้าจะให้เดินชมจนทั่วคงต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งวัน
ความงามและความประทับใจของพระราชวังสนามจันทร์ไมได้มีเพียงเท่านี้ ใครที่อยากลองเปิดมุมมองใหม่ให้กับการท่องเที่ยวของตัวเอง ลองเข้ามาสัมผัสและซึมซับบรรยากาศของธรรมชาติแสนบริสุทธิ์ พร้อมศึกษาเรื่องราวสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่นี่ดูได้ แล้วทุกคนจะรู้ว่าสถานที่ท่องเที่ยวที่บางครั้งเรามองข้ามไปยังมีประสบการณ์ใหม่ๆซ่อนไว้มากมาย
Credit :