ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ
จิม ทอมป์สัน มีชื่อเสียงในฐานะผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ผ้าไหม ชั้นนำ จนตอนนี้มี "ฟาร์ม" เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร และแหล่งเรียนรู้ในด้านวัฒนธรรม ในจังหวัดนครราช สีมา ใกล้กับเขื่อนลำพระเพลิง อำเภอปักธงชัย
ทุกปี ฟาร์มของจิม ทอมป์สัน เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวปีละครั้ง ต่อเนื่องมา 12 ปี
สำหรับปีนี้จัดในช่วงสุดสัปดาห์เสาร์-อาทิตย์ (Jim Thompson Weekend) ตั้งแต่ 15 มกราคม-13 กุมภา พันธ์ 2554 ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น.
ภายในฟาร์ม ต้อนรับนักท่องเที่ยวให้ชื่นชมบรรยากาศ อันงดงาม และเรียนรู้ประสบการณ์ด้านการ เกษตร เช่น วงจรชีวิตของหนอนไหม แปลง พืชผักและดอกไม้สีสวยสดนานาชนิด
โดยจำลองบรรยากาศของธรรม ชาติจากดอกไม้พืชพรรณนานาพันธุ์ ชมการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและกระบวนการทอผ้าไหม เรียนรู้วิถีชีวิตและศิลปวัฒนธรรมฉบับอีสานดั้งเดิม ลิ้มรสชาติอาหารอีสาน เลิศรส รวมถึงเลือกซื้อไม้ดอกไม้ประดับและผลผลิตทางการเกษตรปลอดสารพิษ
ในปี 2531 จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม ถือกำเนิดขึ้นบนพื้นที่กว่า 600 ไร่ บนเชิงเขาพญาปราบ ตำบลตะขบ โดยเริ่มจากเป็นแหล่งผลิตไข่ไหมจำหน่ายให้สมาชิกเกษตรกรเพื่อรับซื้อรังสดในการผลิตเส้นไหม และเป็นพื้นที่ปลูกหม่อนอันเป็นอาหารหลักของหนอนไหม
เมื่อย่างเข้าปี พ.ศ.2544 จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม จึงได้เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ปีละครั้ง
ต่อมาในปี 2550 จิม ทอมป์สัน ริเริ่มนำบ้านอีสาน อันเป็นสถาปัตย กรรมไทยอีสานที่เป็นเอกลักษณ์มารวบรวมไว้บนพื้นที่กว่า 10 ไร่ อาทิ บ้านโคราช บ้านภูไท และเรือนเหย้า ซึ่ง "หมู่บ้านอีสาน" แห่งนี้ได้กลายเป็นอีกหนึ่งจุดต้อนรับนักท่องเที่ยว.
มีการจำลองวิถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณี การละเล่น อาหารการกิน และการประกอบอาชีพของชาวบ้านในอดีตให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสความเป็นอยู่ของชาวอีสานอันเรียบง่ายและพอเพียง ทั้งนี้ ในปี พ.ศ.2551 จิม ทอมป์สัน ยังได้สร้างและรวบรวม "หมู่บ้านโคราช" เพิ่มในบริเวณใกล้เคียง เพื่อเป็นการสะท้อนสถาปัตยกรรมอันหลากหลายของภาคอีสานได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม ยังคงเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็นประจำทุกปีในเดือนธันวาคมจนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ด้วยตระหนักถึงความสำคัญของอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ซึ่งสร้างรายได้ให้เกษตรกรอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและวัฒนธรรม ซึ่งสร้างความสุขและประสบการณ์อันแปลกใหม่ให้ทั้งผู้เข้าชม และเกษตรกรของจิม ทอมป์สัน ฟาร์ม
นายธงชัย โพธิ์ไพบูลย์ ผู้จัดการฟาร์มและส่งเสริมหม่อนไหม จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม กล่าวว่า โครงการจิม ทอมป์สัน วีกเอนด์ เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ โดยจัดเป็นพื้นที่ต่างๆ
เริ่มจากจุดแรก ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยบรรยากาศธรรม ชาติของสวนลอยฟ้า ซึ่งสาธิตวิธีการปลูกพืชผักนานาชนิดแบบลอยฟ้า ทั้งไม้ดอกสวยงามพร้อมถ่ายรูปภาพความงดงามของทุ่งปอเทืองสีเหลืองอร่ามจากมุมสูงเพื่อเป็นที่ระลึก ก่อนจะเดินทางเพื่อชมจุดต่างๆ ต่อไปด้วยนำเที่ยวเกษตรของฟาร์ม
จุดที่สอง เพลิดเพลินกับการเก็บภาพความสวยงามตามธรรมชาติของเหล่าดอกไม้เมืองหนาวนานาพันธุ์ อาทิ พีทูเนีย ลิ้นมังกร พังพวย บานชื่น ดาวเรืองฝรั่งเศส บีโกเนีย สร้อยไก่ เทียนฝรั่ง ที่เบ่งบานรับลมหนาว พร้อมเพลิดเพลินไปกับพืช ผักสวนครัวปลอดสารพิษระบบพืชไร้ดินหรือไฮโดรโปนิก ที่ปลูกไว้อย่างมีศิลปะและสวยงาม
จุดที่สาม ชมภูเขาและลานฟักทองยักษ์และทุ่งทานตะวันที่เหลืองอร่าม ที่ทุกท่านจะได้เพลิดเพลินกับการเก็บภาพความสวยงามตามธรรมชาติของดอกไม้นานาพันธุ์ อาทิ ทุ่งทานตะวัน หลากสี ทุ่งคอสมอส พร้อมสนุกสนานไปกับแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติกลางแจ้งตื่นตากับภูเขาฟักทองยักษ์สีสันสดใสและลานฟักทองหลากหลายสายพันธุ์นับหมื่นผล
ก่อนจะอิ่มเอมไปกับผลงานศิลปะและการเวิร์กช็อปจากบรรดาศิลปินมากฝีมือภายใต้โครงการ Jim Thompson Art on Farm คือการนำวัสดุจากที่เหลือใช้จากการผลิตผ้าไหมของโรงงานมาจัดเป็นศิลปะสีสันสวยงาม
จุดที่สี่ จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม พานักท่องเที่ยวได้เรียนรู้และสัมผัสบรรยากาศอีสานดั้งเดิม ทั้งส่วนของหมู่บ้านอีสานที่หาชมได้ยาก พร้อมการจัดแสดงศิลปวัฒนธรรมประเพณี และการละเล่นของชาวอีสานพื้นเมืองแบบครบครัน อาทิ ขบวนการทอผ้าไหมตั้งแต่การเตรียมเส้นยืนเส้นพุ่ง การตีหม้อ การทำเครื่องจัก สาน ทอผ้าฝ้าย ฯลฯ
ก่อนสนุกสนานกับการผลิตข้าวอินทรีย์ ตั้งแต่การปลูก การเก็บเกี่ยว การนวดข้าว การตำและตีข้าว การฝัดข้าว ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถมีส่วนร่วมได้ทุกขั้นตอน พร้อมเรียนรู้วงจรชีวิตหนอนไหม ตั้งแต่ผีเสื้อจนกลายเป็นเส้นไหมล้ำค่า สิ้นสุดจุดนี้ด้วยการเลือกซื้อหาของที่ระลึกสไตล์อีสานแท้ก่อนเดินทางไปยังจุดต่อไป
จุดสุดท้าย นักท่องเที่ยวจะได้ชมพืชสวนผักกินได้ลอยฟ้า เช่น ฟัก น้ำเต้า แฟง บวบ และเลือกซื้อสินค้าจากฟาร์ม อาทิ ผักปลอดสารพิษ เช่น ผักสลัด มะเขือเทศ ฟักทอง ผลิตภัณฑ์ผ้าไหมที่ทอมือและสีธรรมชาติ เช่น ผ้าพันคอ เสื้อ กระเป๋า และถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับฟักทองยักษ์ก่อนเดินทางกลับ
ด้าน กฤติยา กาวีวงศ์ ผู้อำนวยการหอศิลป์ บ้านจิม ทอมป์สัน กล่าวว่า ในปีนี้ได้เพิ่มไฮไลต์ให้กับ Art Center on Farm เพื่อเป็นการสืบสานวัฒนธรรมอีสานดั้งเดิม และเพื่อรวบรวมหนังที่เกี่ยวกับภูมิภาคนี้ ให้เกิดพื้นที่ในการเรียนรู้และพบปะ ทำความเข้าใจกันในวัฒนธรรมอีสานในเชิงลึกกับ "เทศกาลหนังอีสาน" ครั้งแรกในเมืองไทย ในรูปแบบภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับคนอีสานและอีสานพลัดถิ่นให้ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมฟาร์ม และคนในท้องถิ่นได้สัมผัสประสบการณ์และมีส่วนร่วมในอีกทางหนึ่ง
โดยจัดขึ้นที่หอแจก ในหมู่บ้านอีสาน เป็นหนังที่สร้างจากคนหลายระดับ ทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่น
มีการสร้างเครือข่ายในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ร่วมกับมูล นิธิหนังไทย และหอภาพยนตร์แห่งชาติ รวมไปถึงโรงเรียน มหาวิทยาลัยท้องถิ่น ดำเนินการโดยผู้กำกับฯ ชาวอีสาน อาทิ ครูบ้านนอก ที่โด่งดังในอดีต โดย สุรสีห์ ผาธรรม หรือ อภิชาติพงษ์ วีระเศรษฐกุล ผู้กำกับหนังอิสระและศิลปินจากขอนแก่นได้รับรางวัลปาล์มทองคำ ที่เทศกาลหนังนานา ชาติเมืองคานส์ ฯลฯ กับผลงานชุด จดหมายถึงลุงบุญมี บ้าน ผีสิง เป็นต้น
ผู้สนใจเข้าชมได้ทุกเสาร์-อาทิตย์ จนถึงวันที่ 13 ก.พ. บัตรผ่านเข้าฟาร์ม ผู้ใหญ่ราคา 80 บาท เด็กราคา 50 บาท
โทร.สอบถามรายละเอียดที่ 0-2216-7368, 0-2612-6740, 08-1902-7544 และอีเมล์ farmtour@jim thompson.com
ขอบคุณ นสพ ข่าวสด
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dNVEkwTURFMU5BPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBeE1TMHdNUzB5TkE9PQ==