เบนซ์ เอสแอล 500 พันธุ์สปอร์ตตัวแรง รุ่นที่ 6
- เอสแอล-คลาสเป็นรถสปอร์ตแบบโรดสเตอร์จากค่ายดาวสามแฉก เมอร์เซเดส-เบนซ์
ที่มีตำนานให้สืบย้อนหลังไปได้กว่า 60 ปี เมื่อเอสแอลรุ่นแรก
(รหัสตัวถังดับเบิลยู 198) เปิดตัวในปี ค.ศ. 1952 ตัวอักษรเอสแอล (SL)
นั้นเป็นตัวย่อของคำว่า ซูเปอร์ ไลต์เวต ซึ่งแปลว่าน้ำหนักเบามาก
อันเป็นเอกลักษณ์การออกแบบประจำตัวของเอสแอลตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน
สำหรับเอสแอลตัวล่าสุด (รหัสตัวถังอาร์ 231)
ที่เปิดตัวในปีนี้จะเป็นรถรุ่นที่ 6 ในตระกูลเอสแอล
ซึ่งเบนซ์จัดทริปให้สื่อมวลชนทั่วโลกได้ทดลองขับ ระหว่างวันที่ 7-8 มี.ค.
ที่ผ่านมา ณ เมืองมาลากา ประเทศสเปน
โดยเอสแอลที่นำมาให้ลองขับกันในทริปนี้จะเป็น รุ่นเอสแอล 500
- ถ้าเทียบกับเอสแอล รุ่นก่อนหน้านี้ (รหัสตัวถังอาร์ 230)
พบว่าจุดเด่นของเอสแอลรุ่นล่าสุดอยู่ที่การนำอะลูมิเนียมและแมกนีเซียม
ซึ่งมีน้ำหนักเบามาทำเป็นโครงสร้างของรถเกือบทั้งหมด
ส่งผลให้น้ำหนักตัวของเอสแอล 500 ใหม่ลดลงไปจากเดิมกว่า 125 กก.
ส่วนการออกแบบรูปโฉมนั้นดูคล้าย ๆ เอสแอลรุ่นที่ 3 (รหัสตัวถังอาร์ 107)
ส่วนรูปทรงยังคงอยู่บนพื้นฐานดั้งเดิมคือ
เป็นรถสปอร์ตแบบโรดสเตอร์ที่มีกระโปรงหน้ายาว ห้องโดยสารขนาดกะทัดรัด
ส่วนท้ายรถบานออกเพื่อให้ดูทรงพลังและดุดัน
ที่ด้านข้างมีครีบระบายอากาศขนาดใหญ่
- เมื่อเข้าไปนั่งในห้องโดยสารจะรู้สึกได้ว่ามีความกว้างขวาง
ทำให้เข้าออกง่ายและนั่งสบาย
สำหรับการตกแต่งภายในเน้นงานลายไม้เชื่อมยาวจากคอนโซลกลางไปถึงแผงหน้าปัด
ต่อเนื่องไปจนถึงประตู ลวดลายของไม้มีให้เลือกได้ 3 แบบ
กับลายอะลูมิเนียมอีก 2 แบบ
หลังคาที่เป็นกระจกสามารถปรับความโปร่งใสหรือทึบแสงขึ้นได้
ส่วนกลไกพับหลังคาระบบไฮโดรลิก ทำงานได้รวดเร็วไม่ถึง 20 วินาที
และยังเพิ่มความสะดวกในการเปิดปิดฝาท้ายเพียงแค่ยื่นเท้าไปตรงบริเวณใต้
กันชนท้าย ฝาท้ายก็จะเปิดขึ้นเองด้วยระบบไฟฟ้า ความจุของห้องเก็บสัมภาระ
ใหญ่พอจะใส่ถุงกอล์ฟได้ 2 ใบ
- ขุมพลังของเอสแอล 500 ได้มาจากเครื่องยนต์เบนซิน วี 8 เทอร์โบคู่ ขนาด
4,663 ซีซี ให้พลังเทียบเท่าฝูงม้ากว่า 435 ตัว
มากกว่าในรุ่นก่อนหน้านี้ถึง 12% ทั้ง ๆ ที่ปริมาตรกระบอกสูบน้อยกว่าถึง
0.8 ลิตร ส่วนแรงบิดก็เพิ่มขึ้นจาก 530 นิวตัน-เมตร เป็น 700 นิวตัน-เมตร
หรือมากกว่าเดิมถึง 32% ที่ 1,800-3,500 รอบ/นาที
ตัวเครื่องยนต์มีฟังก์ชันการขับมาตรฐาน 3 แบบ คือ ประหยัด, ธรรมดา
และสปอร์ต ระบบเกียร์เป็นแบบอัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ ในด้านสมรรถนะ
เอสแอล 500 สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 4.6 วินาที
ซึ่งเร็วขึ้นกว่าเอสแอล 500 รุ่นก่อนถึง 0.8 วินาที
ขณะที่อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงกลับลดลงจากเดิมถึง 22%
- สำหรับสนนราคาค่าตัวของเอสแอล 500 นั้น
ถ้านำเข้ามาขายในบ้านเราก็คงจะอยู่ที่ประมาณ 14 ล้านบาท
แต่ตอนนี้ยังไม่มีการผลิตรุ่นพวงมาลัยขวาออกมาจำหน่าย
ดังนั้นเศรษฐีกระเป๋าหนักในบ้านเราคงต้องร้องเพลงรอไปก่อน
อย่างเร็วก็น่าจะเป็นช่วงปลายปีนี้ที่จะมีพวงมาลัยขวาออกมาให้เห็นกัน.
-
- สัมฤกษ์ รื่นสัมฤทธิ์
- http://www.dailynews.co.th/article/1546/17675