วันเสาร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2555

เผยโฉม"Monolive" แอพไทยท้าชน "WhatsApp"

Pic_246271
ชูแอพพลิเคชั่นสายพันธุ์ไทย "Monolive" ผลงานพัฒนาโดยโมโน เทคโนโลยี ท้าชนแอพฯ ดังยอดนิยม "WhatsApp"  พร้อมลุยตลาดต่างประเทศ เปิดตัวได้ 1 เดือน มียอดดาวน์โหลดและลงทะเบียนใช้งานแล้วเกือบ 2 แสนคน...

นาย นวมินทร์ ประสพเนตร ผู้ช่วยประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด (ซีเอ็มโอ) บริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า   ขณะนี้ แอพพลิเคชั่นบนมือถือ กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และมีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว ควบคู่ไปกับสมาร์ทโฟนที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นได้ในเขตกทม.และหัวเมืองใหญ่ๆ   มีผู้ใช้สมาร์ทโฟนกว่า 50.4% โดยส่วนใหญ่ผู้ที่มีการถือครองสมาร์ทโฟนจะเป็นนักเรียน,นักศึกษาและคนวัยทำ งาน โดยในปี 54  ที่ผ่านมา  ตลาดสมาร์ทโฟนมีมูลค่าประมาณ 30,000 กว่าล้านบาท ขยายตัว 30-40% ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ตลาดแอพพลิเคชั่นเองมีอัตราเติบโตควบคู่กันไป ด้วยตัวเลขที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว
ซี เอ็มโอ โมโน เทคโนโลยี กล่าวต่อว่า ในปีที่ผ่านมาบริษัทเราได้ผลิตแอพพลิเคชั่นต่างๆ  ออกมารองรับระบบโทรศัพท์ที่เป็นสมาร์ทโฟน อาทิ  “Horolive”   แอพเพื่อการทำนายดวงชะตาหรือดูดวง ที่มีหมอชื่อดัง  อาทิ หมออ้าย  หมอคฑา  ซึ่งจะสร้างความสะดวกสบายในการดูดวงให้กับผู้ต้องการ  ซึ่งเหมาะกับคนไทยเป็นอย่างมาก ด้วยค่าบริการเพียง 30 บาท / เดือน   “Mthai”  เป็นแอพที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการอัพเดทข่าวสารในทุกวงการ  “Bat jumper” เป็นแอพเกมที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย และสามารถฝึกสมองในขณะเล่นเกมได้ด้วย และเกมน้องใหม่  “Tap the Bird” ที่เป็นเกมเกี่ยวกับศัพท์ภาษาอังกฤษ  ที่จะสามารถช่วยเสริมทักษะด้านภาษาได้อีกด้วย โดยทั้งหมดได้รับฟีดแบ็คอย่างดีเยี่ยม

นายนวมินทร์  กล่าวอีกว่า ล่าสุดกับ “Monolive” แอพพลิเคชั่นที่ทีมงานตั้งใจพัฒนาขึ้น เพื่อเป็นโปรแกรมการแชทของคนไทยในระบบปฏิบัติการสมาร์ทโฟน โปรแกรมนี้ผู้ใช้จะสามารถพูดคุย สื่อสาร ส่งข้อความฟรี ล่าสุดมียอดการดาวน์โหลด และลงทะเบียนใช้งานกว่า 200,000  คน  หลังเปิดตัวเพียง 4 สัปดาห์  และยังมียอดดาวน์โหลดขึ้นเป็นอันดับ 1 ในขณะนี้  โดยความพิเศษของ “Monolive” คือจะเป็นแอพที่รวบเอาข้อดีของทุกแอพแชทมาอยู่ที่จุดเดียว ไม่ว่าจะเป็นของ WhatApp  Line หรือ BBM  อาทิ บัดดี้สเตตัส การส่งไฟล์วีดีโอและเสียงพูด    จึงทำให้ขณะนี้มีสมาชิกแล้วกว่า 200,000 คน และคาดว่าจะมีถึง  2, 000,000 คนภายในปีนี้  ทั้งนี้เราได้เตรียมพร้อมระบบเพื่อรองรับให้ผู้ใช้งานทั้งสมาร์ทโฟนระบบ ปฏิบัติการไอโอเอส และ แอนดรอนได้ทั่วโลก โดยจะเน้นตลาดที่บริษัทมีสาขาอยู่แล้ว เช่น  อินโดนีเซีย เกาหลี และในประเทศที่เรากำลังจะเปิดสาขาในอนาคต ได้แก่ เวียดนามและรัสเซีย  
ซี เอ็มโอ โมโน เทคโนโลยี กล่าวด้วยว่า ในส่วนของการลงทุนอาจจะไม่ได้ลงในตัวเลขมากนัก แต่ก็เตรียมพร้อมที่จะลงทุนในระบบเพื่อรองรับกับผู้ใช้งานจำนวนมหาศาล และคงต้องเน้นเรื่องของการพัฒนาฟีเจอร์และฟังก์ชั่นให้ดียิ่งๆขึ้นไป  และก็ต้องแข่งกับเจ้าของแอพพลิเคชั่นที่มีอยู่ทั่วโลกเช่นกัน ฉะนั้นสิ่งที่จะวัดความสำร็จได้  คือ การสร้างแอพให้โดดเด่นถูกใจผู้บริโภคให้มากที่สุด ทั้งนี้ด้วยการที่กลุ่มโมโนกรุ๊ปถือเป็นผู้ให้บริการคอนเทนต์บนมือถือเป็น อันดับ 1 ของประเทศไทย อีกทั้งยังมีศักยภาพในการผลิตและพัฒนาคอนเทนต์ในทุกรูปแบบ จึงมองว่ายังมีโอกาสทางธุรกิจอยู่อีกมาก ในการที่จะขยายตลาดด้านนี้ให้กว้างขึ้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ”

http://www.thairath.co.th/content/tech/246271