วันจันทร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2555

คูเป้ เอส ตัวแสบน้องใหม่ ของตระกูล มินิ - ป้ายแดงชวนขับ

  • มินิ ประเทศไทย เปิดตัวมินิ คูเปอร์ พร้อมกันถึง 2 รุ่น คือ รุ่นคูเป้ เอส ราคา 2.89 ล้านบาท และรุ่นคูเปอร์ คูเป้ ราคา 2.32 ล้านบาท (เฉพาะรถนำเข้าโดยมินิ ประเทศไทย สามารถใช้น้ำมันอี20 ได้) พร้อมคอนเซปต์หลังคาทรงหมวกกันน็อกที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผนวกความสนุกเร้าใจในแบบของรถยนต์สปอร์ต 2 ที่นั่ง แต่ให้ความรู้สึกแบบโกคาร์ท

    จึงเป็นที่มาของ “ป้ายแดงชวนขับ” ประจำเดือน มี.ค.นี้ ที่ขอพิสูจน์ มินิ คูเป้ เอสสมาชิกลำดับที่ 5 ในครอบครัวของมินิ ซึ่งได้รับการออกแบบให้เป็นรถยนต์สปอร์ตคอมแพ็ก 2 ที่นั่งอย่างแท้จริง ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.6 ลิตร พร้อมเทคโนโลยีระบบอัดอากาศทวิน-สกรอลล์ เทอร์โบ ที่ทำงานร่วมกับระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ สามารถผลิตกำลังสูงสุดถึง 184 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที เมื่อนำมารวมเข้าไว้กับระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สัน ด้านหลังแบบมัลติลิงค์ ทำให้มินิ คูเป้กลายเป็นรถสปอร์ตคอมแพ็กที่ให้ความรู้สึกถึงการขับขี่ที่สนุกสนานเร้า ใจ ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมฟังก์ชันสเต็ปทรอนิก
  • นอกจากนี้ระบบมินิ คอนเน็คเต็ด ในมินิ คูเป้ เอส สามารถเชื่อมต่อกับโปรแกรม เฟซบุ๊ก, ทวิตเตอร์, ไดนามิก มิวสิก, เว็บข่าวและวิทยุ ทำให้สามารถฟังวิทยุจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกได้ ทั้งนี้ระบบดังกล่าวยังทำงานร่วมกับไอโฟน 4 ผ่านระบบเชื่อมต่อสัญญาณดาต้า จีพีอาร์เอส หรือ 3จี เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อกับโลกโซเชียล เน็ตเวิร์กได้ทุกที่ ทุกเวลา
  • ส่วนการออกแบบ เน้นการสร้างประสบการณ์สไตล์มินิในรูปแบบที่แตกต่าง โดยเฉพาะรูปแบบตัวถังสปอร์ต คอมแพ็ก 2 ที่นั่ง ที่มีความสูงโดยรวมต่ำกว่ามินิ รุ่น 5 ประตู 52 มม. ด้วยรูปทรงหลังคาแบบหมวกกันน็อก มิติความยาวตัวถัง 3,734 มม. ความกว้าง 1,683 มม. และความสูง 1,384 มม. นอกจากนี้ มินิได้พัฒนาระบบสปอยเลอร์หลังแบบแอ็คทีฟ ซึ่งจะปรับระดับขึ้นเองอัตโนมัติที่ความเร็ว 80 กม./ชม. และปรับลงเก็บเข้าที่เดิมเมื่อความเร็วลดต่ำลงกว่า 60 กม./ชม. เพิ่มสมดุลตามหลักอากาศพลศาสตร์และเป็นสัญลักษณ์ของมินิ คูเป้ที่แตกต่างจากรถยนต์ในรุ่นอื่น ๆ
  • นักออกแบบของมินิได้สร้างสรรค์ผลงานการออกแบบด้วยแนวคิด ทรี บ็อกซ์ ดีไซน์ (สามกล่อง) ที่แบ่งออกเป็นส่วนหน้าในตำแหน่งฝากระโปรง ส่วนกลางในส่วนของผู้ขับขี่ และในส่วนหลังของช่องเก็บสัมภาระและฝาท้าย ซึ่งเมื่อพิจารณาในด้านข้าง จะเห็นได้ถึงการออกแบบกระจกหน้าและเสาเอที่ค่อนข้างเป็นแนวราบกว่ารถยนต์ รุ่นอื่น ๆ รวมทั้งเส้นสายของโครงหลังคาที่ดูมีพลังขับเคลื่อน เพิ่มความรู้สึกปราดเปรียว
  • ส่วนดีไซน์ภายในสะท้อนเอกลักษณ์ความคลาสสิก เช่น มาตรวัดความเร็วขนาดใหญ่วางอยู่ตรงกลางแดชบอร์ด พร้อมกับแผงประตูรูปวงรี พร้อมกับเบาะนั่งแบบสปอร์ต พร้อมวัสดุหุ้มเบาะหนังแท้ สำหรับพื้นที่จัดเก็บสัมภาระมีความจุถึง 280 ลิตร หรือเทียบเท่ากับมินิ คลับแมน
  • นอกจากนี้ มินิ ประเทศไทยได้จัดโปรแกรมเอ็มเอสไอ (มินิ เซอร์วิส อินคลูซีฟ) 3 ปี หรือ 50,000 กม. ไว้ให้บริการนักซิ่งแฟนพันธุ์แท้มินิเต็มอิ่มกันทีเดียว.
  • มินิ คูเป้ ใหม่ ร้อนแรงแฝงความสปอร์ต
  • หากจะกล่าวถึงแง่มุมด้านการออกแบบของมินิ คูเป้ใหม่แล้วคงต้องยอมรับว่า มีทั้งคนที่ปลื้มและคนที่ไม่ปลื้มนัก เพราะมินิ คูเป้นั้นถือได้ว่าเป็นการฉีกกรอบรูปทรงของมินิที่เคยเป็นมา แบบไม่เห็นหน้าเห็นหลังกันเลยก็ว่าได้ (เหมือนที่หลาย ๆ คนก็ยังทำใจไม่ได้กับมินิ คันทรี่แมน ที่เป็นเอสยูวียอดนิยมของมินิ) จากแต่ที่ยึดมั่นกับรูปทรงแบบ “สองกล่อง” มินิ คูเป้กลับมาพร้อมกับรูปทรงแบบ “สามกล่อง” หรือเป็นมินิที่มี “ติ่ง” ฝากระโปรงท้าย

    แต่! การมีติ่งฝากระโปรงท้ายสั้น ๆ ยื่นออกมานั้น ไม่ได้ทำออกมาเล่น ๆ แต่ทั้งหมดเป็นผลของการปรับปรุงอากาศพลศาสตร์โดยรวมของรถทั้งคัน แน่นอนว่า ทุกคนที่ได้สัมผัสต่างยอมรับว่ามินิเป็นรถเล็กที่มีช่วงล่างหนึบขับสนุก แต่สิ่งหนึ่งที่มินิทำได้ไม่ดีเท่าไรก็คือ ย่านความเร็วสูง อันเป็นผลจากอากาศพลศาสตร์ที่ไม่ค่อยเป็นใจจากรูปทรงของกระจกหน้าที่ตั้งชัน ต้านลม และท้ายที่ตัดตรงอันสร้างแรงฉุดด้านท้ายนั่นเอง หากดูที่ศักยภาพของช่วงล่างและเครื่องยนต์แล้ว แน่นอนว่าสมรรถนะสามารถไปได้ไกลกว่านี้อย่างไม่ยากเย็น หากได้รับการปรับแต่งด้านอากาศพลศาสตร์ที่เหมาะสม มินิ คูเป้คือคำตอบของปัญหาที่ว่ามา ด้วยการออกแบบให้กระจกหน้ามีความลาดเอียงเป็นพิเศษ พร้อมหลังคาทรงโค้งมนที่เรียกกันว่า ทรงหมวกกันน็อก ที่มีการออกแบบให้ควบคุมการไหลผ่านของอากาศได้เป็นระเบียบและจะส่งผ่านกระแส อากาศไปยังสปอยเลอร์ท้ายที่
    สามารถยกตัวขึ้นเองเมื่อความเร็ว 80 กม./ชม.ขึ้นไป และการลดความสูงที่นั่ง (ซึ่งของเดิมก็ต่ำอยู่แล้ว) ให้ต่ำลงไปอีก 2 นิ้ว พร้อมกับเอาเบาะนั่งคู่หลังออกไปจนเหลือเพียงแต่เบาะนั่งด้านหน้า ด้วยการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ ทีมนักออกแบบและวิศวกรของมินิได้สร้างสรรค์  มินิที่มีจุดศูนย์ถ่วงของรถที่ต่ำลง พร้อมกับแหวกอากาศได้ลื่นไหลและสร้างแรงกดด้านท้ายเพิ่มขึ้น ทั้งหมดนี้ทำให้มินิ คูเป้เป็นมินิที่ร้อนแรง เกาะถนน และรวดเร็วที่สุดเท่าที่ได้เคยผลิตขึ้นมา
  • แต่! มินิ คูเป้เองก็ไม่ได้เป็นรถสปอร์ตพันธุ์แท้ที่เหมาะเอาไว้อัดแข่งกันในสนามแข่ง รถ (ส่วนใหญ่เอาไว้ขับอวดสาวเป็นหลัก) แต่ใช้งานในชีวิตประจำวันไม่ค่อยได้ เพราะมินิ คูเป้ยังมาพร้อมกับฝากระโปรงท้ายแบบลิฟต์แบ็กที่เปิดได้กว้าง ช่วยให้ใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างสบาย ๆ สไตล์มินิเหมือนเดิม

    หากถามว่ามินิ คูเป้เหมาะกับใคร? คงจะแบ่งออกได้ 3 ประเภท ประเภทแรกก็คงจะเป็นแฟนพันธุ์แท้ของมินิมาแต่อ้อนแต่ออก เรียกได้ว่ามีครบแล้วแทบทุกรุ่น ดังนั้นก็คงต้องจัดมินิ คูเป้นี้เข้าคอลเลกชั่นกันไป ส่วนอีกประเภทก็คือกลุ่มผู้มีออกเทนในเลือดสูง จะซื้ออะไร จะถูกจะแพงขอแรงไว้ก่อน และประเภทสุดท้ายคงหนีไม่พ้นกลุ่มนักสะสม นักเก็งกำไร เพราะแน่นอนว่ามินิไม่ได้ทำรถรุ่นนี้ขึ้นมาในจำนวนที่มากเท่ากับรุ่นอื่น ๆ และในอนาคตจะต้องกลายเป็นของหายาก ราคาขายต่อในอนาคตจะดูมีภาษีดีกว่ารุ่นทั่ว ๆ ไปอย่างแน่นอน

    แต่ไม่ว่าคุณจะเป็นคนกลุ่มไหน อย่ารอช้า เพราะรู้สึกว่าบริษัท มินิ (ประเทศไทย) เค้าจะสั่งมาจำนวนไม่มาก อยากได้ต้องไว ขายหมดแล้วหาอีกไม่ได้อย่าหาว่าไม่บอกก่อนนะครับ.
  • รถเพื่อผู้หญิงสุดเปรี้ยว
  • “ป้ายแดงชวนขับ” หน้าร้อนกับนักทดสอบหน้าใหม่ พิม-พิมพรรณ หงษ์ปาน แห่งทีมเอลฟ์ พาราวินเซอร์ สิทธิผล ที่เพิ่งคว้าแชมป์โตโยต้า วีออส เลดี้ปีล่าสุด พิมบอกว่าเคยเห็นมินิ คูเป้ เอส แบบผิวเผินมาก่อน รู้สึกว่าเป็นรถคันใหญ่ แต่เมื่อเห็นตัวจริงแล้วรู้สึกประทับใจ เพราะขนาดกะทัดรัดเหมาะสมกับคอนเซปต์ของผู้ผลิต นอกจากนี้ยังดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยว ด้านหน้าคงเอกลักษณ์ของมินิ เอส ส่วนด้านหลังเป็นรถสปอร์ตสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะสปอยเลอร์ตรงด้านท้ายจะยกขึ้นทำงานอัตโนมัติ เมื่อขับด้วยความเร็ว 80 กม./ชม.หรือจะปรับเองก็ได้ ส่งผลให้ยึดเกาะถนนได้มั่นคงยิ่งขึ้น

    พิมอธิบายต่อว่า เมื่อเข้ามานั่งก็รู้สึกถึงความแตกต่างจากมินิรุ่นเก่า ๆ คือมีออพชั่นเยอะกว่า เช่น เข็มไมล์ที่หมุนปรับซ้ายขวาจะอยู่ตรงเบรกมือ พวงมาลัยยังคงคอนเซปต์เดิม จับกระชับมือและมีปุ่มฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ ทั้งปรับเสียงหรือเปลี่ยนเกียร์ และก็สามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ได้

    อย่างไรก็ดี สิ่งที่อยากให้มินิเปลี่ยน แปลงก็คือเบาะนั่งน่าจะใช้ระบบไฟฟ้าเพิ่มความสะดวกสบาย แม้ว่าเบาะหนังกระชับตัวสำหรับคนตัวเล็ก แต่ถ้าคนขับตัวใหญ่อาจไม่ค่อยสบายเท่าไรนัก

    ระบบเบรกดีมาก ตอบสนองไว มีระยะการเบรกพอเหมาะ ให้ความมั่นใจ ขณะที่อัตราเร่งออกตัวแรงขึ้นกว่ามินิรุ่นก่อน ๆ ประมาณ 20%-30% โดยเฉพาะการขับในโหมดสปอร์ตยิ่งเห็นชัดเจน เพราะเมื่อกดคันเร่ง รถจะกระชากแรงขึ้นอีกสเต็ปนึง คือ โหมดสปอร์ตจะแรงขึ้น 20% โหมดอัตโนมัติแรงขึ้นประมาณ 10% เมื่อเทียบกับโหมดอัตโนมัติของมินิตัวเก่า นอกจากนี้อัตราเร่งก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต่างจากรถบางคันเมื่อกดคันเร่งแต่ความเร็วกลับไม่เพิ่มขึ้นไปตามที่เราต้อง การ ซึ่งมินิ คูเป้คันนี้กลับตอบสนองได้ดั่งใจ

    แชมป์โตโยต้า วีออส เลดี้ปีล่าสุดให้ความเห็นเกี่ยวกับระบบช่วงล่างของมินิ คูเป้ ว่า เกาะถนนดีให้ความมั่นใจและปลอดภัยมากขึ้น ถึงแม้ว่าเปลี่ยนเลนด้วยความเร็วสูง

    “มินิ คูเป้ได้รับการออกแบบมาอย่างเฉียบคม ให้ความรู้สึกสนุกเร้าใจ พิมหักพวงมาลัยเลี้ยวรถอย่างหนักในโค้งแคบ ๆ แทบไม่รู้สึกเลยว่ารถมีอาการเหวี่ยงหรือเสียสมดุลส่วนจุดเด่นที่สำคัญอีก อย่างก็คือ ฟังก์ชันการใช้งานง่าย มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบาย ล้ำสมัยด้วยการเชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือไอโฟน 4 เรียกได้ว่ามินิ คูเป้ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เหมาะสำหรับผู้หญิงโสดหรือกลุ่มคนใช้รถที่ได้เดินทางกับครอบครัว หรือเหมาะกับการเดินทาง 2 คน”

    พิมบอกว่าราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ถือว่าไม่สูงนัก ทำให้คนรุ่นใหม่สามารถเป็นเจ้าของได้ไม่ยาก เพราะมินิตัวก่อนราคามากกว่า 2 ล้านบาทแล้ว นอกจากนี้มินิ คูเป้ได้พัฒนาขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง คิดว่าเป็นรถที่เหมาะกับผู้หญิงมากกว่า นอกจากสวยเก๋แล้วยังมีที่เก็บของเยอะ ซึ่งพิมให้ดาวด้านดีไซน์ภายนอก 4 ดาวเพราะออกแบบมาดูแล้วไม่มีอะไรขัดหูขัดตา แต่ถ้าเปิดประทุนด้วยก็จะให้ 5 ดาว เครื่องยนต์ให้ 5 ดาวเพราะมีอัตราเร่งดีที่สุดในบรรดามินิทุกรุ่น ช่วงล่างให้ 5 ดาวเหมือนกันจากการเปรียบเทียบกับ
    มินิด้วยกัน แต่มีข้อติตรงที่ปรับเบาะพนักพิง ที่ยังไม่ใช้ระบบไฟฟ้าเท่านั้นเอง.
  •  
  • ลำยอง ปกป้อง ภัทรกิติ์ โกมลกิติ
http://www.dailynews.co.th/article/1546/15441