วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2554

วันครบรอบเมอร์เซเดส-เบนซ์ ฉลอง 125 ปี ผู้นำนวัตกรรมยานยนต์ทั่วโลก

วันที่ 29 มกราคม ค.ศ. 1886 เป็นวันครบรอบที่คาร์ล เบนซ์ได้จดสิทธิบัตรในการประดิษฐ์คิดค้นรถยนต์คันแรกของโลก ซึ่งมีชื่อว่า "เบนซ์ มอเตอร์วาเก้น" มุ่งตอกย้ำ ความเป็นผู้นำนวัตกรรมยานยนต์ใน 5 ด้าน ได้แก่ ผู้นำนวัตกรรมด้านการผลิตรถยนต์ ผู้นำนวัตกรรมด้านเทคโนโลยียนตรกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม ผู้นำนวัตกรรมด้านความปลอดภัย ผู้นำนวัตกรรมด้านความสะดวกสบาย และผู้นำนวัตกรรมด้านดีไซน์
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมฉลองโกลบอลแคมเปญ "125 ! Years of innovation" ในโอกาสครบรอบ 125 ปีที่รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้ถูกประดิษฐ์ขึ้นเป็นครั้งแรกของโลก พร้อมมุ่งสร้างสรรค์อนาคตแห่งการขับเคลื่อนและตอกย้ำความเป็นผู้นำแห่งนวัตกรรมยานยนต์อันเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เมอร์เซเดส-เบนซ์ครองความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของตลาดรถยนต์หรูมากว่าศตวรรษ 
ศาสตราจารย์ ดร.อเล็กซานเดอร์ เพาฟเลอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่า ในปี 2011 นี้เป็นปีสำคัญที่เดมเลอร์ เอจี ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในประเทศเยอรมนีจะจัดงาน ครบรอบ 125 ปี รถยนต์เมเซอร์เดส-เบนซ์ที่คาร์ล เบนซ์ได้จดสิทธิบัตรในการประดิษฐ์คิดค้นรถยนต์คันแรกของโลก ซึ่งมีชื่อว่า "เบนซ์ มอเตอร์วาเก้น" เมื่อวันที่ 29 มกราคม ค.ศ. 1886 ทำให้วันนี้ของทุกปีกลายเป็นวันสำคัญในฐานะวันถือกำเนิดรถยนต์คันแรกของโลก

"แคมเปญเฉลิมฉลองการครบรอบ ในครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ในการเป็นผู้นำด้วยความเชื่อมั่นและสไตล์ที่เป็นบทพิสูจน์ในตัวเอง โดยได้ผสานทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของแบรนด์เราในแบบที่เรียบง่าย แต่สื่อสารได้อย่างชัดเจนว่าเราได้คิดค้นรถยนต์ขึ้นเมื่อ 125 ปีที่แล้ว เรายังคงคิดค้นอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อ นำเสนอนวัตกรรมยานยนต์ใหม่ ๆ อย่างไม่ขาดสาย และเราจะยังรักษาบทบาทสำคัญในการกำหนดอนาคตแห่งการขับเคลื่อนที่ยั่งยืนด้วยการเป็นผู้นำนวัตกรรม" โดยเราจะมุ่งตอกย้ำความเป็นผู้นำนวัตกรรมยานยนต์ใน 5 ด้าน ได้แก่ ผู้นำนวัตกรรมด้านการ ผลิตรถยนต์ ผู้นำนวัตกรรมด้านเทคโนโลยียนตรกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม ผู้นำนวัตกรรมด้านความปลอดภัย ผู้นำนวัตกรรมด้านความสะดวกสบาย และ ผู้นำนวัตกรรมด้านดีไซน์"

หนึ่งในนวัตกรรมที่มีความสำคัญที่สุดของบริษัท ได้แก่ รถยนต์สมัยใหม่คันแรกรุ่นเมอร์เซเดส 35 HP ซึ่งวางจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ ของปี ค.ศ. 1900 รถยนต์รุ่นนี้ถือเป็นต้นแบบของรถยนต์ส่วนบุคคลที่ใช้กันอยู่จวบจนปัจจุบัน
ปี 1906 โดยได้มีการประดิษฐ์คิดค้นเทคโนโลยี hybrid จากพลังงานแบตเตอรี่อิเล็กทรอนิกส์มาใช้ควบคู่กับน้ำมันเชื้อเพลิงในช่วงปลายทศวรรษ 60 จนล่าสุดในปี 2010 อิเล็กทริกคาร์ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ก็ถือกำเนิดขึ้นพร้อมกันถึง 3 รุ่น A-Class E-Cell, Vito E-Cell และ B-Class F-Cell โดยการสร้างสรรค์รถยนต์ในซีรีส์ ต่าง ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนั้นนำมาซึ่งแนวคิด BlueEFFICIENCY 
นอกจากนี้ยังได‰สร้างมาตรฐานความปลอดภัยให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ อาทิ ส่วนที่นั่งสำหรับผู้โดยสาร ซึ่งได้รับสิทธิบัตรในปี 1951, ระบบเบรก ABS ระบบเบรกป้องกันล้อล็อกในปี 1978, ถุงลมนิรภัยที่นำมาใช้ตั้งแต่ปี 1981 รวมไปถึงระบบทรงตัว อัตโนมัติ ESP (Electronic Stability Program) ในปี 1995 และระบบปกป้อง PRE-SAFE ในปี 2002 โดยจะเห็นว่านวัตกรรมเหล่านี้กลายเป็นอุปกรณ์มาตรฐานของผู้ผลิตรถยนต์ทั่วไปในปัจจุบัน

นายฉัตวิทัย ตันตราภรณ์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "สำหรับการเฉลิมฉลองโกลบอลแคมเปญ 125 ! Years of innovation" ถือเป็นการตอกย้ำแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ในฐานะผู้สร้างประวัติศาสตร์แห่งโลกยานยนต์มากว่า 125 ปี ในประเทศไทยนั้นบริษัทจะมุ่งเน้นไปที่การนำเสนอแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ให้ดูก้าวล้ำนำสมัยอย่างต่อเนื่อง พร้อมนำเสนอยนตรกรรมรุ่นใหม่ ๆ


Credit : http://www.prachachat.net