วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เคล็ดลับดูแลบ้านให้ปลอดสารเคมี

เรื่อง....กันยา : http://www.posttoday.com
เคล็ดลับน่าสนใจในการดูแลบ้านแสนรักให้ปลอดจากสารเคมีที่ส่งผลให้เกิดโรค
ภัยแก่ผู้อยู่อาศั??ไม่ว่าบ้านของคุณจะเล็กหรือใหญ่เพียงใด ก็ไม่สำคัญเท่ากับว่าคุณดูแลบ้านให้มีความสะอาดดีแค่ไหน เพราะเดี๋ยวนี้โรคภัยไข้เจ็บมีเยอะ ไหนจะมาจากฝุ่นละออง ไหนจะเกิดจากสัตว์ต่างๆ ทั้งหนู แมลงสาบ ล้วนแต่เป็นตัวก่อโรคทั้งสิ้น แต่การทำความสะอาดมากๆ ก็อาจจะเป็นบ่อเกิดให้บ้านเราเพิ่มปริมาณสารเคมีภายในบ้านได้มากอย่างไม่รู้ตัวก็เป็นไปได้ และนั่นก็ทำให้อากาศเป็นพิษได้อีกทางหนึ่ง
สารเคมีที่มีอยู่มากมายในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและดูแลบ้านนั้น ก็เป็นชนิดเดียวกับที่ถูกใช้ในสารทำความสะอาดในอุตสาหกรรมที่ใช้งานหนักๆ แบบโรงงาน ซึ่งการได้รับสารเคมีแม้ในปริมาณน้อยๆ แต่เป็นระยะเวลานาน และเป็นสารเคมีหลายชนิดๆ ก็ส่งผลกับสุขภาพได้เช่นกัน เช่น แอมโมเนีย ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อไตและตับ สารฟอกขาวก็ก่อให้เกิดมะเร็งได้การที่เราจะลดความเสี่ยงได้ ก็ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย ใช้ส่วนผสมธรรมดาที่มีในชีวิตประจำวันและไม่อันตราย เป็นพิษน้อยกว่า และมีราคาถูกกว่า เช่น น้ำส้มสายชู เกลือ น้ำมะนาว น้ำมันพืช แต่หากเราจำเป็นต้องใช้สารเคมีอย่าง เบกกิงโซดา บอแรกซ์ และโซดาซักผ้า เราควรจะหลีกเลี่ยงอย่างไร
เคล็ดลับง่ายๆ ในการใช้งาน
1.ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ขณะใช้งาน ห้องต่างๆ ต้องมีการระบายอากาศอย่างเพียงพอขณะทำงาน เปิดหน้าต่างประตูให้ระบายอากาศได้ดี
2.ผงซักฟอก เพราะมีสารฟอกขาวและน้ำหอมที่อาจเกิดการแพ้ ระคายเคือง ให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่เป็นธรรมชาติ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและผิวหนัง ซักผ้าที่อุณหภูมิต่ำ ไม่ใช้น้ำยาซักผ้าที่ฆ่าเชื้อโรค เพราะระคายเคืองง่าย
3.น้ำยาล้างจาน ล้างจานด้วยมือดีกว่า ประหยัดกว่าเครื่องล้างจาน น้ำยาล้างจานสำหรับเครื่องล้างมักจะมีฟอสเฟตที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม และมีสารที่ทำให้เกิดการผื่นคัน ใช้น้ำสบู่อ่อนๆ ผสมมะนาวก็ช่วยได้ จานเลอะๆ ก็จะไม่มันไม่เหม็นคาวได้เช่นกัน
4.น้ำยาล้างห้องน้ำ จะมีฤทธิ์ในการกัดกร่อนและทำให้เกิดแก๊สพิษเมื่อผสมกับน้ำ มีไอระเหยที่เป็นอันตรายต่อตับ ไต ระคายเคืองตา ผิวหนัง ระบบทางเดินหายใจ ดังนั้นน้ำยาดับกลิ่นและเจลให้กลิ่นหอมเป็นสิ่งไม่จำเป็น หลีกเลี่ยงการใช้สเปรย์ เพราะละอองที่เกิดขึ้นถูกสูดดมเข้าไปโดยง่าย ระคายเคืองต่อปอด
5.น้ำหอมปรับอากาศ ไม่ว่าจะเป็นสเปรย์ เทียนหอมที่จุดในห้องรับแขก ห้องนอน มีสารก่อให้เกิดการแพ้ มีผลต่อระบบหายใจ ดีที่สุดเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ กลิ่นอาหาร กลิ่นกับข้าว หรือจะใช้มะกรูดผ่าครึ่งซีก วางไว้ตามมุมห้องก็ช่วยได้
6.น้ำยาทำความสะอาดพรม เฟอร์นิเจอร์ มีตัวละลายและสารกันบูดที่เป็นพิษ สำหรับพื้นที่เป็นเสื่อน้ำมัน กระเบื้องพลาสติก หินธรรมชาติ ไม้ ใช้แค่น้ำเปล่าถูทุกวันก็สะอาดพอ ส่วนตู้ โต๊ะ เฟอร์นิเจอร์ไม้ ใช้แค่ผ้าชุบน้ำหมาดๆ ก็เพียงพอแล้ว ส่วนพื้นพรม เครื่องหนัง ใช้แค่น้ำเปล่าผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำสบู่อ่อนๆ ก็พอเช่นกัน
หันมาใช้อะไรที่เป็นธรรมชาติให้มากขึ้น จะดีต่อสุขภาพและร่างกายนะคะ