วันเสาร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เยี่ยมศูนย์วจัย"ฮุนได" โชว์คุณภาพครบวงจร

คอลัมน์ รายงานพิเศษ
มยุรี นวมมี



การเดินทางเยี่ยมชมศูนย์การวิจัยและพัฒนา รถยนต์ฮุนได ที่เมืองนัมยาง (Hyundai Namyang R&D Center) และโรงงานผลิตเหล็ก กล้า ฮุนได สตีล แฟคทอรี่ (Hyundai Steel Factory) ที่ประเทศเกาหลีในกิจกรรม Journey to the world of Hyundai : Thailand Journa lists in Hyundai R&D Center Namyang, Korea 2011

นำโดยบอสใหญ่ นายโยชิอากิ อิชิมูระ ประ ธานกรรมการ บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ระหว่างวันที่ 10-14 ก.ค.ที่ผ่านมา ทำให้คณะสื่อมวลชนได้สัมผัสถึงความยิ่งใหญ่ของค่ายรถยนต์แบรนด์ชั้นนำสัญชาติเกาหลี ที่กำลังผงาดขึ้นชั้นบริษัทรถยนต์ชั้นนำของโลก

จากจุดแข็งของฮุนไดที่มีสายงานธุรกิจรถยนต์ที่ครบวงจร ตั้งแต่ขบวน การผลิตวัตถุดิบ การวิจัยพัฒนาและออกแบบ ตลอดไปจนถึงการประกอบเป็นรถยนต์สำเร็จรูป ด้วยการลงทุนสร้างโรงงานถลุง และผลิตเหล็กที่เป็นของตน เอง ป้อนให้แก่อุตสาห กรรมการผลิตรถยนต์โดย ตรง ทำให้ฮุนไดสามารถควบคุมต้นทุนและคุณ ภาพมาตรฐานรถยนต์ได้แบบครบวงจร
ผนวกกับการนำเทคโน โลยีที่ทันสมัยที่คิดค้นโดยศูนย์วิจัยและพัฒนาฮุนได มาใช้พัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนต่างๆ ได้อย่างลงตัวและปลอดภัย ตอกย้ำประสิทธิภาพด้านการตลาดและการแข่งขันในเวทีโลกได้อย่างภาคภูมิ

ศูนย์การวิจัยและพัฒนา รถยนต์ฮุนได นับเป็นศูนย์วิจัยเทคโนโลยีระดับโลก ที่เพียบพร้อมไปด้วยศูนย์วางแผน การออกแบบ และวิจัยการขับเคลื่อน ภายใต้การทำงานของ บุคลากรคุณภาพกว่า 8,000 คน ความทันสมัยของเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ฮุนไดคิดค้น สามารถตอบโจทย์ความปลอดภัยในการขับขี่ได้อย่างลงตัว

เช่น การพัฒนานำนวัตกรรมนาโนมาผลิตเป็นกระจกรถยนต์ โดยเฉพาะกระจกบริเวณด้านหน้ารถที่มีความสามารถพิเศษทำให้เม็ดฝนไม่เกาะติดบริเวณหน้ากระจก รบกวนทัศนวิสัยในการขับขี่ การคิดค้นพัฒนายางรถยนต์ชนิดพิเศษที่ไม่แตกเมื่อเกิดการชนหรือกระแทก การพัฒนาแผ่นเหล็กประกอบโครงรถยนต์ให้มีน้ำหนักเบาและเพิ่มความเหนียวทนทาน เพื่อความปลอดภัยสูงสุดจากการชนกระแทกจากอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน และการพัฒนาหลังคารูปแบบที่เป็นแผ่นพลังงานแสงอาทิตย์ รวมทั้งรถยนต์ไฟฟ้าที่สามารถชาร์ตไฟบ้านได้

มาตรฐานระบบทดสอบความปลอดภัยในการขับขี่ และระบบป้องกันภัยเป็นอีกหัวใจสำคัญที่ฮุนไดมุ่งมั่นเดินหน้าต่อเนื่อง รับรู้ได้จากการเยี่ยมชมสนามทดสอบการขับขี่ที่มีความหลากหลาย และครบวงจร

เริ่มตั้งแต่ระบบการจัดเตรียมรถต้นแบบกว่า 7,000 คัน เพื่อนำมาขับขี่ทดสอบสมรรถนะ นำมาวิ่งที่สนามทดสอบ หรือ Proving Ground ภายในศูนย์ที่มีระยะทางยาวถึง 70 กิโลเมตร แบ่งออกเป็นถนน 34 รูปแบบ ที่มีลักษณะพื้นผิวขรุขระมากถึง 71 พื้นผิว

นอกจากนี้ฮุนไดยังทุ่มเงินมหาศาลกว่า 45 ล้านเหรียญสหรัฐ จัดสร้างอุโมงค์ลมทันสมัยขนาดใหญ่ที่มีความกว้าง 4 เมตร ยาว 7 เมตร เพื่อนำมาใช้ทดสอบความปลอดภัยของตัวรถยนต์ด้วยการปล่อยกระแสลมซึ่งมีความเร็วกว่า 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผ่านอุโมงค์ลมมายังตัวรถยนต์ เป็นเวลานาน เฉลี่ยคันละ 500-1,000 ชั่วโมง

นายสฤกษ์ภรณ์ สกลรักษ์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาดและวางแผนผลิตภัณฑ์ บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์)จำกัด กล่าวว่า สิ่งที่สร้างแต้มต่อให้กับความสามารถในการแข่งขันของรถยนต์ฮุนได คือการมีโรงงานถลุงและผลิตเหล็กแบบครบวงจร ทำให้ฮุนไดสามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้ สามารถแข่งขันด้านราคากับคู่แข่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยยืนยันว่าฮุนไดจะไม่มีการปรับราคาจำหน่าย แม้ว่าในอนาคตจะมีการนำวัสดุ อุปกรณ์ที่ทันสมัยและมีราคาแพงขึ้นมาใช้ในกระบวนการผลิตรถยนต์ก็ตาม
สำหรับโรงงานผลิตเหล็กกล้า ฮุนได สตีล แฟคทอรี่ ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาดใหญ่ มีกำลังการผลิตเหล็กต่อปีจำนวนมหาศาล แบ่งเป็นเหล็กดิบ 4.5 ล้านตัน และเหล็กแผ่นชนิดม้วน 4.4 ล้านตัน ภายในโรงงงานที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจร เริ่มตั้งแต่ท่าเรือขนส่งวัตถุดิบสินแร่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ระบบการขนถ่ายสินแร่ผ่านทางรถไฟขนาดเล็ก และระบบท่อมาจัดเก็บในโรงเก็บสินแร่รูปโดมขนาดใหญ่ที่เป็นระบบปิดที่เดียวของโลก ที่สามารถป้องกันไม่ให้สินแร่ฟุ้งกระจายออกสู่บรรยากาศด้านนอกจนส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากฮุนไดเน้นย้ำระบบการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นายแฟรงก์ อาห์เพนส์ ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ฮุนไดมอเตอร์ กล่าวว่า โรงงานเหล็กฮุนไดเน้นกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยแบ่งการผลิตเหล็กออกเป็น 2 รูปแบบคือ 1.การผลิตเหล็กขึ้นมาใหม่จากสินแร่ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ โดยครึ่งหนึ่งมีการนำเข้าจากออสเตรเลียและแอฟริกา

และ 2.คือการผลิตแบบรีไซเคิล โดยนำเศษเหล็กเก่ามาสังเคราะห์ เพื่อผลิตเป็นเหล็กใหม่ โดยในขบวนการผลิตเหล็กรีไซเคิล ฮุนไดยังมีการนำไอเสียที่ได้จากขบวนการรีไซเคิลเหล็กประมาณ 80% มาผลิตเป็นไฟฟ้าไว้ใช้ภายในโรงงานของฮุนไดอีกด้วย ช่วยประหยัดการใช้พลังงานและลดภาวะโลกร้อน

โดยเหล็กที่ผลิตจากโรงงานของฮุนไดนอกจากนำไปเป็นวัตถุดิบในการผลิตรถยนต์โดยตรงแล้ว ยังมีการส่งออกไปจำหน่ายยังอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น การต่อเรือ งานก่อสร้าง งานวิศวกรรม การสร้างรถไฟ ไปทั่วโลกอีกด้วย

ถือเป็นการตอกย้ำการเป็นบริษัทรถยนต์ชั้นนำของโลกได้ดีทีเดียว
**
Credit : http://www.khaosod.co.th/