วันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

FORTUNER-VIGO โฉมใหม่-เร้าใจกว่าเดิม

คอลัมน์ รถใหม่


ครองเจ้าตลาดมาตั้งแต่ปีแรกๆ ที่เปิดตัว ทั้งปิกอัพ "วีโก้" และรถอเนกประสงค์ "ฟอร์จูนเนอร์" จนสร้างสถิติยอดขายรวมถึง 2.3 ล้านคัน แม้ทุกวันนี้ยอดขายยังไปได้เรื่อยๆ แต่ด้วยอายุอานามก็หลายปีเข้าไปแล้ว ทำให้ "โตโยต้า" ปรับโฉมใหม่รถทั้ง 2 รุ่น แบบ "บิ๊กไมเนอร์เชนจ์"

โดยวีโก้เพิ่มคำว่า "แชมป์" ต่อท้ายเข้าไป เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาด

รุ่นใหม่เน้น 4 จุดเด่นคือ

"Style" รูปลักษณ์สมาร์ต ล้ำสมัย จากหัวจรดท้าย สะท้อนภาพลักษณ์อันโดดเด่น

"Comfort" ความรู้สึกในการขับขี่ที่นุ่มนวล สะดวกสบาย ในแบบรถอเนกประสงค์

"Fuel efficiency" ประสิทธิภาพในการใช้น้ำมันที่คุ้มค่าหมดจด ประหยัดน้ำมันถึงขีดสุด

"Performance" สมรรถนะเครื่องยนต์อันทรงพลัง ให้ความสนุก สนานทุกการขับขี่

มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่สุด "Diamond Tech" จ่ายน้ำมันด้วยความแม่นยำสูง สั่งการ ทำงานทั้งระบบผ่านกล่องคอมพิวเตอร์ 32 บิต
หัวฉีดเคลือบสารพิเศษ "Diamond Liked Carbon Coating" ภายในเข็มหัวฉีดช่วยให้จ่ายน้ำมันได้คล่องและป้องกันการเกาะตัวของคราบเขม่า

รุ่นวีโก้ ออกแบบภายนอกใหม่หมด กระจังหน้าเสริมโครเมียม กันชนหน้าใหม่ พร้อมไฟตัดหมอก กันชนท้ายโครเมียม ไฟคู่หน้าฮาโลเจน มัลติรีเฟลกเตอร์ ไฟหลังดีไซน์ใหม่

ภายในหน้าปัดเรืองแสงมองถนัดชัดสายตา วิทยุแบบ 2 DIN CD 1 แผ่น ช่องต่อ USB และ AUX รุ่นสมาร์ตแค็บ เพิ่มจอแสดงข้อมูลการขับขี่และพวงมาลัยสี่ก้าน พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง

รุ่นสี่ประตู มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ จอสัมผัสขนาด 6.1 นิ้ว และระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย หรือ "บลูทูธ"

ระบบช่วงล่างโครงสร้างเหล็กชิ้นเดียวตลอดคัน แชสซีแข็งแกร่ง ทนทาน กันสะเทือนหน้าอิสระปีกนกคู่ ดับเบิ้ลวิชโบน และคอยล์สปริง หลังชุดแหนบเหนือ เพลา

ในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ กับพรีรันเนอร์ ขับสองยกสูง เพิ่มแผ่นรองใต้ท้องรถ ให้การไหลเวียนอากาศดีขึ้น เสริมการทรงตัวของรถ

เครื่องยนต์มีให้เลือกทั้งเบนซิน 2.7 ลิตร VVT-I กำลังสูงสุด 160 แรงม้า

ส่วนเครื่องดีเซลมีหลายรุ่นอาทิ 2.5 ลิตร 102 แรงม้า, 2.5 ลิตร อินเตอร์คลู เลอร์ 120 แรงม้า, ดีเซล 2.5ลิตร VN อินเตอร์คลูเลอร์ 144 แรงม้า และดีเซล 3.0 ลิตร VN อินเตอร์ คูลเลอร์ 163 แรงม้า

ส่วนฟอร์จูนเนอร์ มาพร้อมกับไฟหน้า HID ปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ ระบบทำความสะอาดไฟหน้าแบบพับซ้อนเก็บได้ กระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์หรูทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ช่องดักลมฝากระโปรงหน้า กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว และมือจับประตูแบบโครเมียม

กันชนท้ายดีไซน์ให้ดูกลมกลืนอย่างมีมิติ สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED ไฟท้ายดีไซน์เลนส์แก้วใสเห็นรายละเอียด ไฟเบรกทรงกลม

ภายในพวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมลายไม้ ปุ่มควบคุมเครื่องเสียง และจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบควบคุมเปิดปิดไฟหน้าอัตโนมัติ

เครื่องเล่นดีวีดี จอแสดงผล ติดตั้งระบบนำทางเนวิเกเตอร์ เพิ่มความปลอดภัยด้วยกล้องมองหลัง เชื่อมต่อโทรศัพท์ผ่านบลูทูธ ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล

เบาะนั่ง 7 ตำแหน่งปรับเปลี่ยนได้หลากหลายรูปแบบ ตามลักษณะการใช้งาน เย็นสบายทั้งคัน ด้วยช่องแอร์เบาะนั่งตอนสองและตอนสาม
เครื่องยนต์มี 3 แบบ เบนซิน 2.7 ลิตร 160 แรงม้า, ดีเซล 2.5 VN เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ 144 แรงม้า และดีเซล 3.0 ลิตร 163 แรงม้า

ระบบกันสะเทือนหน้าอิสระดับเบิ้ลวิชโบนพร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบโฟร์ลิงก์ คอยล์สปริง พร้อมแผ่นรองใต้ท้องรถ ให้การไหลเวียนอากาศดีขึ้น เสริมการทรงตัว

ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Full-Time 4WD พร้อมระบบเฟืองท้ายแบบ TORSEN LSD กระจายแรงบิดระหว่างล้อหน้าและหลังให้สัมพันธ์กับสภาวะการขับขี่อัตโนมัติ

โตโยต้ายังทุ่มทุนดึง "คริสเตียโน่ โรนัลโด้" นักเตะชื่อดังมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ด้วย

รถใหม่ทั้ง 2 รุ่นจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 22-24 ก.ค.นี้ ที่โชว์รูมทุกสาขา แถมโปรโมชั่นเด็ดผู้ซื้อมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลชมฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก ที่ประเทศญี่ปุ่น 100 รางวัล รางวัลละ 2 ที่นั่ง

ส่วนราคาปรับขึ้นจากรุ่นเดิม 10,000-20,000 บาท รุ่นวีโก้อยู่ที่ 487,000-988,000 บาท และฟอร์จูนเนอร์เคาะราคา 1.059-1.501 ล้านบาท



เคียวอิจิ ทานาดะ

กรรมการผู้จัดการใหญ่


"ไฮลักซ์ วีโก้ และฟอร์จูนเนอร์ ได้รับการยอมรับด้านคุณภาพจากลูกค้าทั่วโลก เป็นรถยนต์ยอดนิยมระดับ เวิลด์คลาส มียอดจำหน่ายตั้งแต่ปี 2547 ถึงปัจจุบัน 2.3 ล้านคัน และยังครองแชมป์ยอดขายอันดับ 1 ตลาดในประเทศ รวมถึงส่งออกมาเป็นเวลาติดต่อกัน 5 ปี นอกจากนี้ ยังเป็นแชมป์ด้านคุณภาพ ด้วยรางวัลมากมาย โตโยต้าภูมิใจนำเสนออีกพัฒนาการที่ก้าวล้ำครั้งใหม่ ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์ จะมีส่วนสำคัญให้โตโยต้ารักษาแชมป์ยอดขายอันดับ 1 ตลาดรถปิกอัพ และตลาดรถยนต์รวมในปีนี้ได้อีกอย่างแน่นอน''
Credit : http://www.khaosod.co.th/