วันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

มาสด้า 3 นิวเจน" ใหม่-สด หัวถึงหาง ที่สนามทดสอบโบนันซ่า เขาใหญ่
















เทสต์ คาร์
อมร พวงงาม

อีกไม่กี่วันแฟน ๆ มาสด้าก็จะได้ยลโฉมมาสด้า 3 ตัวใหม่
 (เจเนอเรชั่นที่ 2) ในบ้านเรากันแล้ว 
ก่อนที่จะเปิดตัวผมมีโอกาสถูกเชื้อเชิญให้ไป
เรียนรู้และสัมผัสตัวจริงเสียงจริง ไม่ไกลครับ แค่เขาใหญ่นี่เอง
 โดยใช้สนามแข่งรถสร้างใหม่ซึ่งยังไม่เสร็จดีของ
 "เสี่ยสงกรานต์ เตชะณรงค์" เจ้าของโบนันซ่า เป็นสถานที่ทดสอบ


ก่อนเห็นของจริงก็ต้องไปเข้าห้องเรียน เพื่อให้มันรู้กันจะ ๆ
 กันก่อนว่า กว่าจะออกมาเป็นมาสด้า 3 เจนสองเนี่ย
 เขาผ่านอะไรมาบ้าง 
โดยมีมิสเตอร์ "ฮิเดยูกิ ไซโตะ"      
 ผู้จัดการด้านประชาสัมพันธ์อาเซียนของมาสด้ากรุ๊ป 
ซี่งเดินสายบรรยายข้อมูลมาสด้า 3 มาแล้วทั่วโลก เป็น 
ผู้ให้ข้อมูล เริ่มต้นจากข้อมูลทางการตลาด มาสด้า 3 
เจเนอเรชั่นแรก
 เปิดตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2002   ในตลาดต่างประเทศ 
สำหรับประเทศไทยเปิดตัวในปลายปี 2004
 รวมยอดผลิตตอนนี้กว่า 2,900,000 คันทั่วโลก


เหตุผลที่มาสด้า 3 ประสบผลสำเร็จมาจากการออกแบบอย่างมีพลัง 
แสดงออกด้วยอารมณ์อย่างชัดเจน
 สมรรถนะการออกแบบ
       ที่เหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน
 และความปลอดภัยที่เป็นเลิศตามปรัชญาซูม-ซูม
มิน่าบ้านเราถึงวันนี้ฟาดไปใกล้ ๆ 3 หมื่นคันเข้าให้แล้ว


ส่วนแรงบันดาลใจการสร้างรถมาสด้า 3 เจเนอเรชั่นใหม่ "ไซโตะ"
 บอกว่า ต้องการสร้างให้มีสมรรถนะแล
ะความรู้สึกของการขับขี่แบบรถยุโรปที่เหนือกว่ารถญี่ปุ่น
ในกลุ่มเดียวกัน ในชาร์ตเขาบอกว่าเทียบเท่าออดี้เลยล่ะ


แยกสมรรถนะเป็นความสมดุลของสมรรถนะในการขับขี่
 เป็นที่รู้ว่าถ้าเมื่อไหร่คุณทำรถให้สมดุล
 ความแม่นยำในการขับขี่มีให้เห็นแน่นอน
 วิศวกรของมาสด้าจึงได้เพิ่มขนาดหน้า
ตัดของเหล็กซับ-เฟรมให้มีขนาดใหญ่ขึ้น
 เพิ่มจุดยึดของชุดแร็กพวงมาลัยกับซับ-เฟรม จาก 2 เป็น 3 จุด 
เพื่อเพิ่มระยะ pitch ของจุดยึดเหล็กกันโคลงหน้า


ระบบแชสซี และระบบกันกระเทือนเพิ่มขนาดหน้าตัดของชุดคานเหล็กด้านหลังให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพิ่มเหล็กค้ำในชุดคานเหล็กด้านหลัง ผลลัพธ์ที่ได้คือ สมดุล แข็งแกร่ง ลดการโคลงตัวของระบบช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยว จึงให้ความแม่นยำและตอบสนองดียิ่งขึ้น ระบบเบรกก็พัฒนากลไกการทำงานให้ตอบสนองแม่นยำมากยิ่งขึ้น กดเบา ๆ แต่หยุดรถได้เร็วขึ้น ให้ความแม่นยำสูง งานวิศวกรรมตัวถังก็เพิ่มเสถียรภาพของชิ้นส่วนตัวถังที่เชื่อมเข้าด้วยกันจากสปอตมาเป็นแบบเชื่อมแนวยาว เพื่อลดการเสียรูปและการโคลงตัวของตัวถัง


ส่วนห้องโดยสาร "ไซโตะ"บอกว่า เปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ตำแหน่งของอุปกรณ์ต่าง ๆ ถูกออกแบบให้สะดวกสบาย และเพิ่มความสอดประสานในการขับขี่ อาทิ หัวเกียร์ปรับให้สูงขึ้น คันเบรกมืออยู่ในตำแหน่งแบบรถสปอร์ต ตำแหน่งแผงหน้าปัดวิทยุสูงขึ้น เบาะนั่งด้านหน้าแบบใหม่ให้ความรู้สึกนุ่มสบายและโอบกระชับเวลาขับขี่ เบาะนั่งมีความยาวขึ้น 20 ม.ม. เพื่อรองรับช่วงต้นขาได้มากขึ้น พนักเก้าอี้ออกแบบให้มีความยาวมากขึ้น 35 ม.ม. เพิ่มการรองรับสรีระของผู้ขับ มี side support เพิ่มการโอบกระชับด้านข้าง ที่ขาดไม่ได้ก็คือ ความพยายามในการลดเสียงรบกวนของห้องโดยสาร


อีกสิ่งหนึ่งมาสด้าไม่ละเลยคือการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัยที่เป็นเลิศตามปรัชญาซูม-ซูม แบบยั่งยืน มาสด้า 3 เจนใหม่มีระบบส่งกำลังและระบบควบคุมคุณภาพไอเสีย ชุดกรองไอเสีย หรือ catalytic converters สามารถลดปริมาณการใช้โลหะธรรมชาติราคาสูงในสัดส่วนที่น้อยลงถึง 70%


มาสด้า 3 เจเนอเรชั่นใหม่ออกแบบด้วยหลักด้านอากาศพลศาสตร์ที่ดี มีค่าเป็นเลิศ ตัวซีดานทำได้ 0.28 ส่วนแฮตช์แบ็กทำได้ 0.30 และที่มาสด้าภาคภูมิใจมากที่สุดก็คือ การลดน้ำหนักส่วนเกินที่ไม่จำเป็น ไม่น่าเชื่อลดลงไปถึง 15 ก.ก. ขณะที่ความปลอดภัยก็ครบทั้งก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ


หลังจากจบทฤษฎี ทีนี้ก็มาว่ากันเรื่องปฏิบัติที่จะได้ไปทดลองขับตัวจริงกันละครับ มาสด้ามีเครื่องยนต์ 2 รุ่นให้เลือก 1.6 ลิตร และ 2.0 ลิตร ตัวที่ได้ขับก็แน่นอนต้องเป็น 2 ลิตร ผมเป็นคนหนึ่งที่ขับมาสด้า 3 เยอะ ทั้งแฮตช์แบ็กและซีดาน จำฟิลลิ่งได้ค่อนข้างแม่น ยอมรับครับว่า       "แตกต่าง" แฮนด์ลิ่งผิดไปเลยครับ"ทั้งแน่น ทั้งหนึบ" ไม่น่าเชื่อว่าการปรับปรุงเที่ยวนี้จะได้ผลเกินคาด


ส่วนเครื่องยนต์ก็ไม่รู้อุปทาน      รึเปล่า ? เพราะสเป็กยังไม่เป็นที่เปิดเผย แต่รู้สึก "แรงขึ้น" ผิดหูผิดตา แค่ 3 รอบสนามโบนันซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล สปีดเวย์ แม้จะถ่ายทอดความรู้สึกออกมาไม่ได้ทั้งหมด แต่ก็พอเห็นความ "แตกต่าง"
คอมาสด้าอดใจรออีกนิด 17 มีนาคมนี้คงได้รู้กันละว่า มาสด้า 3 ตัวใหม่นี้จะสยบเก๋งขนาดกลางได้ แค่ไหน ?