วันเสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

มิทสึโอกะ กาลู 2.5 คลาสสิกย้อนยุคจากแดนปลาดิบ

บริษัท มิทสึโอกะ มอเตอร์ จำกัด เป็นบริษัทผลิตรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่น ที่มีจุดเด่นในการนำรถยนต์จากค่ายต่าง ๆ ทั้งของญี่ปุ่นเองและยุโรป มาทำการออกแบบรูปทรงภายนอกใหม่ให้กลายเป็นรถคลาสสิกสุดหรูหรา โดยมีต้นแบบมาจากรถหรูหราของอังกฤษช่วงปี ค.ศ. 1950-1960 

สำหรับตลาดในบ้านเรา มิทสึโอกะได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในแบรนด์ยานยนต์ล่าสุดของเครือ บริษัท ยนตรกิจ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2551 และมีรถมิทสึโอกะที่นำเข้ามาจำหน่ายอยู่ 2 รุ่น คือ โอโรชิ ราคา 11,700,000 บาท และกาลู 2.5 ราคา 3,850,000 บาท ซึ่งทางเดลินิวส์ได้นำมาทดลองขับในอาทิตย์นี้ครับ

กาลู เป็นรถที่มิทสึโอกะนำเอารถนิสสันรุ่นฟูก้า มาออกแบบรูปทรงภายนอกใหม่ โดยในส่วนด้านหน้าของรถนั้น จะมีต้นแบบมาจากรถโรลส์รอยซ์ รุ่นซิลเวอร์ คลาวด์ ปี ค.ศ.1960 ซึ่งเท่าที่มองดูผมว่าทางมิทสึโอกะทำงานตรงส่วนหน้านี้ออกมาได้ดี ดูแล้วมีความต่อเนื่องของเส้นและส่วนโค้งต่าง ๆ อย่างลงตัว ผิดกับเส้นขอบของฝาท้ายรถที่ยังจบได้ไม่โดนใจนัก แถมตัวโคมไฟท้ายทรงแคบ ๆ ยาว ๆ นั้น ก็ดูจะออกทะเลข้ามแอตแลนติกไปขึ้นฝั่งอเมริกา จนละม้ายคล้ายเหมือนท้ายรถยี่ห้อ คาดิแลค ซะมากกว่า นี่ถ้าเปลี่ยนเอาฝาท้ายของกาลู รุ่นเปิดประทุนได้มาใส่แทนได้ก็จะสวยกว่ากันเยอะเลย

ส่วนการตกแต่งภายในของกาลู ยังคงใช้ของฟูก้าเดิม ๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยแผงคอนโซลหน้าจะใช้โทนสีครีมตัดน้ำตาลอ่อนที่ทำให้ดูกว้างขวางโปร่งสบายตา และเพิ่มความหรูหราด้วยลายไม้รอบคันกับเบาะหุ้มหนังแท้ ตำแหน่งของปุ่มควบคุมต่าง ๆ อยู่ในระยะที่ใช้งานง่าย จะมีข้อให้ติบ้างก็ตรงตัวหนังสือที่ใช้เป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด ตัวเบาะคู่หน้าปรับด้วยระบบไฟฟ้าและถูกออกแบบให้มีขนาดใหญ่และนุ่มนั่งสบาย ส่วนเบาะนั่งหลังก็มีพื้นที่วางขากว้างดี เสียแต่ถ้ามีคนนั่งหลัง 3 คน คนนั่งอยู่ตรงกลางจะวางเท้าได้ลำบากหน่อย 
สำหรับทัศนวิสัยขณะขับรถโดยรอบมองเห็นได้กว้างขวางดี การกะระยะเลี้ยวก็ไม่ยากแม้จะมีช่วงหน้ารถที่ยาวขึ้น พวงมาลัยเพาเวอร์แบบปรับน้ำหนักได้ เบาสบายที่ความเร็วต่ำและหนักกำลังดีเมื่อใช้ความเร็วสูง การตอบสนองต่อการควบคุมก็แม่นยำน่าพอใจ ส่วนทางด้านสมรรถนะของเครื่องยนต์ VQ25DE (NEO)แบบ วี 6 ขนาด 2.5 ลิตร ที่ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด มีจังหวะการทำงานที่นิ่มนวลและให้อัตราเร่งช่วงออกตัวและการเร่งแซงที่ช่วงความเร็วไม่เกิน 140 กม./ชม.ได้ดีเยี่ยม ส่วนหลังจากนั้นอัตราเร่งจะเริ่มตกลงและความเร็วจะไปหยุดลงที่ 180 กม./ชม.ตามมาตรฐานรถจากญี่ปุ่น

ระบบช่วงล่างแบบอิสระทั้ง 4 ล้อมีการทรงตัวที่ความเร็วสูงมั่นคงดีในทางตรง ส่วนทางโค้งจะมีอาการท้ายโยนบ้าง การดูดซับแรงสั่นสะเทือนของระบบกันสะเทือนจะมีอาการกระด้างเมื่อขับผ่านเส้นทางที่ไม่เรียบแต่ถ้าเป็นถนนลาดยางที่เรียบจะให้ความรู้สึกดีขึ้น การทำงานของเบรก ใช้แรงเหยียบน้อยและตอบสนองเร็วดี

สรุปโดยรวมแล้ว ถ้าคุณหลงใหลในความหรูหราของรถคลาสสิกยุคทศวรรษที่ 1960-1970 แต่อยากได้สมรรถนะที่เยี่ยมยอดของรถในยุคปัจจุบัน มิทสึโอกะ กาลู 2.5 คันนี้สามารถตอบโจทย์ในใจคุณได้อย่างแน่นอน และถ้าคุณผู้อ่านอยากจะสัมผัสกาลูอย่างใกล้ชิดด้วยตัวเอง ก็เชิญได้ที่ ฮอลออฟเฟม ชั้น M สยามพารากอน ระหว่างวันที่ 21-27 ก.พ.นี้ครับ.

สมฤกษ์ รื่นสัมฤทธิ์  
http://www.dailynews.co.th