วันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ทีเอสแอลปรับใหญ่ลดซ้ำซ้อน เข้มบริหารสต่อกลดค่าใช้จ่าย


ที เอสแอล รื้อหลังบ้าน จัดระเบียบบริการองค์กรใหม่ ลดความซ้ำซ้อน พร้อมเน้นบริหารจัดการต้นทุน สต๊อก เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง หวังปูทางก่อนแต่งตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯในปี"56 ส่วนปีนี้คาดโกยยอด 960 คัน พร้อมส่ง 3 รุ่นใหม่ทำตลาด 
นาง สาวสุรีย์ภรณ์ อุดมผลวณิช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท ทีเอสแอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์จากต่างประเทศ เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปีนี้ว่า 
จะ เน้นการปรับปรุงองค์กร การบริหารงาน รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงระบบการทำงาน และจัดสรรบุคลากรให้มีความเหมาะสมกับส่วนงานต่าง ๆ ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดความซ้ำซ้อน และเพิ่มความกระชับ ความคล่องตัวของการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

พร้อมกัน นี้บริษัทได้ประกาศนโยบายการดำเนินธุรกิจเน้นการขายเพียงอย่างเดียว จากก่อนหน้าจะเห็นว่าบริษัท เน้นการทำตลาดไปในเชิงของการสร้างภาพลักษณ์ค่อนข้างมาก แต่ปีนี้บริษัทมีนโยบายลดน้ำหนักในเรื่องการสร้างภาพลักษณ์ให้ลดลง เพราะปัจจุบันลูกค้ามีความเชื่อมั่นและรู้จักทีเอสแอลค่อนข้างดี

"ปี ที่แล้วเป็นปีแห่งการเซตอัพระบบงานต่าง ๆ แต่ปีนี้การวางแผนธุรกิจจะเป็นขั้นเป็นตอนมากขึ้น ที่สำคัญปีนี้ภาพของทีเอสแอลเราจะเปลี่ยนไปจากเดิมที่เน้นความหวือหวา ทั้งในเรื่องของการออกสื่อ และการเปิดตัวรถใหม่มาเป็น การปรับปรุงประสิทธิภาพการขาย เป็นหลักโดยยังคงคุณภาพเช่นเดิม" นางสาวสุรีย์ภรณ์กล่าว

และว่าปีนี้ แผนการดำเนินธุรกิจจะเน้นการสร้างเสถียรภาพ และความชัดเจนภายในองค์ให้เพิ่มมากขึ้นนั้น ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการปูทางสำหรับรองรับการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลัก ทรัพย์ฯภายในปี 2556 

นอกจากนี้ บริษัทยังต้องให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการต้นทุน การ สต๊อกรถยนต์ให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า โดยเฉลี่ยบริษัทจะต้องมีการประเมินการบริหารจัดการต้นทุนกันในทุกไตรมาส เพื่อให้ทุกอย่างมีความพร้อมอย่างน้อยที่สุด 80% และเป็นการลดความเสี่ยงจากการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากสิ่งหนึ่งต้องยอมรับว่า ธุรกิจเกรย์มาร์เก็ตนั้นจุดบอดที่สำคัญจุดใหญ่คือ การบริหารจัดการต้นทุน และบริหารจัดการสต๊อก

พร้อมกันนี้ในช่วงไตรมาส 2 บริษัทจะเปิดให้บริการ สาขาภูเก็ตอย่างจริงจัง หลังจากก่อนหน้านี้ได้ศึกษาความต้องการของตลาดมาพอสมควร และเชื่อว่าเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อและศักยภาพค่อนข้างสูง

นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมงบประมาณ 20 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายสำหรับลูกค้า (ซีอาร์เอ็ม) ประมาณ 17 ล้านบาท โดยเฉพาะบัตร "มิราเคิล การ์ด" ด้วยการมอบสิทธิพิเศษต่าง ๆ ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ปัจจุบันฐานลูกค้าของบริษัททั้งหมดมีมากกว่า 5,000 รายทั่วประเทศ

ส่วน กิจกรรมเพื่อสังคม (ซีเอสอาร์) ได้เตรียมงบไว้ถึง 3 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนเยาวชนด้านการศึกษา เช่น ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียน รวมถึงสนับสนุนโครงการชัยพัฒนา และในปีนี้น่าจะมีการจับมือกับพันธมิตรใหม่ ๆ เพื่อจัดกิจกรรมเพื่อสังคมอีก ซึ่งเป็นการ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับบริษัทอย่าง ต่อเนื่อง

ขณะที่ยอดขายปี นี้ บริษัทตั้งเป้าไว้ ที่ 960 คัน คิดเป็น 80% ของปีที่แล้วที่ทำได้ 1,200 คัน ส่วนการเตรียม นำเข้าชุดแต่งจากยุโรปมาทำตลาดอีก 2 แบรนด์นั้น ก็มีความคืบหน้าแล้วกว่า 90%

ปัจจุบันบริษัทนำเข้ารถมา จำหน่ายรวม 8 แบรนด์ 25 โมเดล ซึ่งในปีนี้จะมีรถรุ่นใหม่ 3 รุ่น คือ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซีแอลเอส, เอสแอลเค และโตโยต้า อัลพาร์ด ไฮบริด

"ที เอสแอลเป็นธุรกิจในรูปแบบครอบครัว แต่เมื่อองค์กรเติบโตมากขึ้น เราจำเป็นต้องมีความชัดเจน ผู้ร่วมงานจะได้ไม่เกิดความสับสน และหากทุกอย่างพร้อม ในปี 2556 เราคงจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯอย่างแน่นอน" นางสาวสุรีย์ภรณ์กล่าว