วันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ถึงจะเห่ยแต่ก็สู้นะเฟ้ย

เรื่องย่อ....

ซาวามูระ โนริทากะ - 沢村典隆 เด็กหนุ่มชั้นมัธยมผู้มีความใฝ่ฝันว่า สักวันเขาจะเป็นสุดยอดนักกีฬาเพื่อชนะใจสาวให้ได้ เขาพยายามหาเข้าชมรมกีฬาอยู่หลายชมรม แต่ทว่าไม่มีชมรมไหนรับเขาเลย ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าเขาเป็นคนที่มีร่างกายผอมแห้ง และมีหน้าตาที่ไม่หล่อเหลา อีกทั้งยังถูกสมาชิกของชมรมมวยสากลดูถูกอีกต่างหาก จนกระทั่งเขาได้มารู้จักกับโค้ชชมรมมวยไทยชื่อ "โนริฮิดะ" อดีตนักคาราเต้ที่หันมาเอาดีด้านมวยไทย ซาวามูระได้ดูวิดีโอเทปรายการชกมวยไทยที่โนริฮิดะให้มา ทำให้ซาวามูระเกิดความคลั่งไคล้มวยไทย และได้สมัครเข้าชมรมมวยไทยในเวลาต่อมา ซึ่งในตอนนั้นชมรมมวยไทยเป็นแค่ชมรมเล็ก ๆ แล้วยังได้เพื่อนเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนชาวไทยชื่อว่า "ฉ่ำอุรา" ซึ่งเป็นสมาชิกของชมรมมวยไทยเพียงคนเดียวในตอนนั้น ถึงแม้ว่าชมรมมวยไทยจะได้ซาวามูระเข้าเป็นสมาชิกแล้วก็ตาม หากรวมโค้ชด้วยก็ยังมีสมาชิกแค่ 3 คนเท่านั้น

ต่อมาผู้อำนวยการโรงเรียนมีความคิดที่จะยุบชมรมมวยไทย เพราะชมรมมวยไทยเป็นชมรมที่อยู่อันดับท้ายที่สุดของตาราง และมีสมาชิกน้อย แต่โนริฮิดะไม่ยอมให้ชมรมถูกยุบ เขาจึงตกลงกับผู้อำนวยการ โดยการจัดการแข่งขันระหว่างชมรมมวยไทยกับชมรมมวยสากล ซึ่งตัวแทนของชมรมมวยไทยคือซาวามูระ โดยมีข้อแม้ว่า หากซาวามูระแพ้ ชมรมมวยไทยก็ต้องถูกยุบ แต่ถ้าหากซาวามูระชนะ นอกจากชมรมมวยไทยจะไม่ถูกยุบแล้ว ยังต้องได้อยู่อันดับหนึ่งของโรงเรียนอีกด้วย ถึงแม้ซาวามูระจะเป็นแค่นักมวยฝึกหัด แต่เขาก็ตั้งใจฝึกฝนอย่างจริงจัง จนสามารถชนะตัวแทนจากชมรมมวยสากลได้สำเร็จ และดันชมรมมวยไทยให้ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของโรงเรียนทันที แต่ว่าชัยชนะของเขากลับทำให้เขาตกเป็นเป้าหมายของผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้จากทั่วสารทิศ ทำให้เขาต้องต่อสู้กับนักสู้ที่มีฝีมือฉกาจขึ้นกว่าเก่า ยิ่งชนะเท่าไหร่ก็เป็นการเพิ่มพูนชื่อเสียงให้เขาเอง แต่ศัตรูครั้งหลังๆ ก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นด้วย นั่นทำให้ซาวามูระต้องฝึกฝนอย่างหนัก และแปลกพิสดารยิ่งขึ้น เพื่อที่จะสามารถสู้กับเหล่านักสู้จากทั่วสารทิศ และพามวยไทยให้เป็นที่รู้จักของผู้คนมากขึ้น โดยมีโค้ชโนริฮิดะกับฉ่ำอุราคอยให้คำแนะนำ

ไฟล์:ถึงจะเห่ยแต่ก็สู้นะเฟ้ย.jpg
http://th.wikipedia.org/wiki/ถึงจะเห่ยแต่ก็สู้นะเฟ้