ความฝัน 16 ประการของพระเจ้าปเสนทิโกศล ตอนที่ 12
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
เมื่อพระบรมศาสดาทรงพยากรณ์นิมิตแห่งความฝันประการที่เก้าจบแล้ว พระเจ้าปเสนทิโกศลก็ทรงเล่านิมิตแห่งความฝันประการที่สิบให้พระบรมศาสดาฟังต่อว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้ฝันเห็นข้าวสุกที่คนหุงก็หุงข้าวจากหม้อใบเดียวกันแท้ๆ
ข้าวในหม้อกลับสุกไม่เท่ากัน เมื่อคนหุงตรวจดูข้าวแล้ว จึงแยกข้าวออกมาได้เป็นสามส่วน คือ ส่วนหนึ่งแฉะ
ส่วนหนึ่งดิบ อีกส่วนหนึ่งสุกกำลังดี นิมิตแห่งความฝันนี้จะมีผลเป็นอย่างไรหรือ พระเจ้าข้า''
ครั้นพระบรมศาสดาได้สดับตรับฟังนิมิตแห่งความฝันประการที่สิบของพระเจ้าปเสนทิโกศลจบแล้ว พระองค์ก็ทรงพยากรณ์ความฝันว่า “มหาบพิตร ผลของความฝันนี้จะยังไม่เกิดขึ้นในสมัยของพระองค์ และในยุคสมัยที่พระศาสนาของเราเจริญรุ่งเรืองอยู่ แต่จะบังเกิดขึ้นในอนาคตกาล เมื่อโลกถึงยุคเสื่อม ซึ่งอยู่ในรัชสมัยของพระราชาผู้ไม่ตั้งอยู่ในธรรม เมื่อใดที่พระราชาไม่ตั้งอยู่ในธรรม ข้าราชบริพาร สมณพราหมณ์ และชาวประชาก็จะไม่ตั้งอยู่ในธรรมด้วยเช่นเดียวกัน
เมื่อแต่ละคนต่างไม่ตั้งอยู่ในธรรม ก็จะส่งผลทำให้สภาวะอากาศของโลกแปรปรวน และทำให้เกิดลมพัดกรรโชกอย่างรุนแรง จนเป็นเหตุทำให้วิมานในอากาศของเหล่าเทวดาที่ดูแลความเป็นอยู่ของโลกมนุษย์สั่นสะเทือน เมื่อเป็นเช่นนี้...พวกเทวดาจึงพากันโกรธที่มวลมนุษย์ต่างไม่ตั้งอยู่ในศีลในธรรม และจะพากันทำให้ฝนไม่ตก หรือถ้าตกก็ตกแบบไม่สม่ำเสมอ หรือตกผิดฤดู ผิดที่ผิดทาง คือที่ที่ฝนควรจะตก (อย่างพื้นที่แห้งแล้ง)-กลับไม่ตก ส่วนที่ที่ไม่ควรจะตก (อย่างพื้นที่ที่มีน้ำเยอะอยู่แล้ว)-กลับตก เมื่อสภาพฝนฟ้าแปรปรวนหนักเข้า ข้าวกล้าในบางพื้นที่จะเสียหายเพราะฝนตกชุก ในบางพื้นที่จะงอกงามดีเพราะฝนตกกำลังดี และในบางพื้นที่ก็จะเหี่ยวแห้งตายเพราะฝนแล้ง เหมือนดั่งข้าวสุกที่หุงจากหม้อเดียวกันแต่กลับสุกไม่เท่ากัน คือ ส่วนหนึ่งแฉะ ส่วนหนึ่งดิบ อีกส่วนหนึ่งสุกดี นั่นเอง
ฉะนั้น ความฝันนี้จะไม่ทำให้เกิดภัยใดๆแก่มหาบพิตรอย่างแน่นอน เพราะสิ่งนี้จักบังเกิดขึ้นในอนาคต ขอเชิญมหาบพิตรตรัสเล่าความฝันประการที่สิบเอ็ดต่อไปเถิด”
Credit : www.dmc.tv