วันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

มิตซูฯปรับบทบาท ปั๊ม"ปาเจโรสปอร์ต"พะยี่ห้อ"นิสสัน"ส่งขายตอ.กลาง

"มิตซูบิชิ" แบบไต๋หลังจับมือ "นิสสัน" ปรับบทบาทมารับจ้างผลิตเต็มตัว ประเดิมทำ "ปาเจโร สปอร์ต" ติดยี่ห้อ "นิสสัน" ส่งขาย ตะวันออกกลาง ส่วนปิกอัพ เน้นพัฒนาโมเดลใหม่ร่วมกัน หวังลดต้นทุนการผลิต ลั่น"อีโคคาร์" บายมิตซูบิชิล้วนๆ 

นายโนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จำกัด  เปิดเผยถึงรายละเอียด หลัง มิตซูบิชิ คอปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และ นิสสัน มอเตอร์ ประเทศ ญี่ปุ่น  ประกาศความร่วมมือกัน ในการผลิตรถยนต์ระหว่างมิตซูบิชิและนิสสัน ว่า การตกลงดังกล่าวนั้น  มีอยู่ 4 ประเด็นหลัก คือ
 
1.รถยนต์นั่งขนาดเล็ก หรือ เคคาร์  ที่มีขนาดเครื่องยนต์ 660 ซีซีว่าจะมีการพัฒนารวมกันในญี่ปุ่น 2.มิตซูบิชิ จะผลิต รถปิกอัพดัดแปลง (พีพีวี)  คือ มิตซูบิชิ "ปาเจโร สปอร์ต"  เพื่อให้ นิสสันนำไปจำหน่ายยังประเทศในแถบตะวันออกกลาง  3. มิตซูบิชิ จะพิจารณาเพื่อใช้โรงงานที่แหลมฉบับ เพื่อผลิตรถปิกอัพขนาด 1 ตันให้กับ นิสสัน  และ 4.มิตซูบิชิ และนิสสัน จะมีการพัมนารถปิกอัพขนาด 1 ตันรุ่นใหม่รวมกั



สำหรับการพิจารณาข้างต้นนั้น สิ่งที่น่าจะได้อย่างเป็นรูปธรรมก่อน คือ  การที่มิตซูบิชิ จะรับจ้างผลิตรถยนต์ปาเจโรสปอร์ต ให้กับนิสสัน โดย นำไปติดแบรนด์ "นิสสัน" แล้วส่งออกไปจำหน่ายยังตะวันออกกลางก่อน  และหากจะมีการลงทุนสำหรับโครงการดังกล่าว บริษัทก็จะเป็นผู้ที่ต้องลงทุนทั้งหมด
 
"ตอนนี้มีความร่วมมือของมิตซูบิชิในรูปแบบนี้เช่นกัน คือมิตซูบิชู กับซูซูกิ ในผลิตบีคาร์ ส่วนมิตซูบิชิโคลท์ นั้นซึ่งจะหยุดการผลิตในเร็ว ๆนี้ เพื่อส่งอีโคคาร์ไปทำตลาดในปี2555" นายมูราฮาชิ กล่าว
 
ในอนาคต มิตซูบิชิ จะเป็นผู้รับจ้างผลิตรถยนต์ให้กับนิสสัน ซึ่งแน่นว่า อาจจะต้องมีการร่วมกันพัฒนาสินค้า  สำหรับประเทศไทยนิสสัน เป็นผู้ว่าจ้างผลิต รถปิกอัพขนาด 1 ตัน และรถปิกอัพดัดแปลง ส่วนฐานผลิตอื่นมิตซูบิชิก็อาจจะว่าจ้างนิสสันผลิตรถยนต์อื่นๆ ได้เช่นเดียวกัน
 
โครงการนี้ถือเป็นโครงการในระยะยาว  ในปี 2554 นี้คงไม่ทัน   ซึ่งข้อดีจากแนวคิดความร่วมมือดังกล่าว จะช่วยสนับสนุน ให้ ทั้ง 2 บริษัท สามารถลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการพัฒนาสินค้าใหม่รวมกัน  โดยสามารถใช้โรงงานผลิตร่วมกัน



เดิมจะเห็นได้ว่าความร่วมมือระหว่างค่ายรถยนต์ในรูปแบบร่วมกันถือหุ้น แต่วันนี้สถานการณ์ทุกอย่างเปลี่ยน   มีประโยชน์ร่วมกันก็สามารถตกลงกันได้แล้ว สำหรับโครงการ รถยนต์นั่งขนาดเล็กประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล หรืออีโคคาร์ของมิตซูบิชินั้น  ยืนยันว่าจะเป็นการพัฒนาแพล็ตฟอร์มขึ้นมาสำหรับอีโคคาร์ของมิตซูบิชิโดยเฉพาะ
 

ส่วนความเห็นเรื่องการปรับรูปแบบการจัดเก็บโครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่ มิตซูบิชิไม่ได้กังวลกับการปรับเปลี่ยนดังกล่าว  โดยเฉพาะ รถปิกอัพขนาด 1 ตันที่ ยังคงเป็นโปรดักส์แชมป์เปี้ยนส์ ตัวแรกของประเทศไทยว่า รัฐบาลจะยังคงจัดเก็บในอัตรา 3% เท่าเดิม แต่ในส่วนของการจัดเก็บภาษีรถปิกอัพดัดแปลง หรือ พีพีวี  นั้นปัจจุบันมีการจัดเก็บในอัตรา 20%   
ด้านนายประพัฒน์ เชยชม รองผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ"  ถึงความคืบหน้าความร่วมมือระหว่างนิสสันและมิตซูบิชิ ว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดมากนักและเชื่อว่าในปีนี้น่าจะยังไม่ความชัดเจน ใดๆ 
 
"ในความคิดเห็นส่วนตัว เราคงจะไม่โยนรถทั้งหมดไปให้มิตซูบิชิประกอบแน่  เพราะมีความยุ่งยากในเรื่องของรายละเอียดชิ้นส่วนต่างๆ พอสมควร  เน่าจะเป็นแค่แบ่งโควต้าการผลิตบางส่วนไป เพื่อให้กำลังการผลิตในโรงงานของเราเหลือ แต่ทั้งนี้ คงต้องดูผลดีผลเสียอีกพอสมควร" นายประพัฒน์ กล่าว



Credit :http://www.prachachat.net/